ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 พบว่า กว่า 42.5% ของผู้ตอบ เลือกฉลองปีใหม่ในกรุงเทพฯ เพื่อเลี่ยงการจราจรติดขัด และบางส่วนได้เดินทางท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วงวันหยุดยาวต้นเดือนธันวาคม ขณะที่ด้านการจับจ่ายใช้สอย คนส่วนใหญ่ยังมีแผนทำกิจกรรมในเทศกาลปีใหม่ แต่ระมัดระวังมากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 5,300 บาทต่อคน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้ทยอยใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ ในช่วงแคมเปญลดราคาอย่าง 11.11 12.12 และใช้สิทธิ์การท่องเที่ยวผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันไปแล้ว
สำหรับประเภทสินค้าที่มีแผนจะเลือกซื้อในช่วงปีใหม่ 2564 มากที่สุด ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย และอาหารประเภทขนมเค้ก ของทานเล่น ในขณะที่การซื้อกระเช้าของขวัญ มีสัดส่วนการใช้จ่ายลดลงจากปีก่อนหน้า จากแนวทาง No Gift Policy ที่หลายองค์กรปฏิบัติกันมาต่อเนื่อง ส่วนการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่าต่อชิ้นค่อนข้างสูง มีสัดส่วนน้อยที่สุด ในขณะที่ผู้บริโภคบางกลุ่ม ยังมีความระมัดระวังการใช้จ่าย และเลื่อนเวลาการซื้อออกไปอีกสักระยะ จากปัจจัยความไม่แน่นอนด้านรายได้ ที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจ
ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ตอบกว่า 41% ปรับรูปแบบการเลี้ยงสังสรรค์ โดยหันไปซื้ออาหารและเครื่องดื่มมาปรุงรับประทานเอง แทนการไปร้านอาหาร เนื่องจากราคาถูกกว่า สามารถรับประทานได้หลายคน อีกทั้งต้องการหลีกเลี่ยง การไปในพื้นที่ชุมชนที่อาจมีคนหนาแน่น นอกจากนี้ คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นจากปีก่อน (ออนไลน์ 40% : ออฟไลน์ 60%) ถึงแม้ตลาดออฟไลน์จะยังมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า แต่แสดงให้เห็นว่า ช่องทางออนไลน์มีความสำคัญ ในการตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทาง ดังนั้น ผู้ประกอบการอาจพิจารณาช่องทางการขาย ที่ผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ประกอบกับการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ตอบโจทย์ฐานลูกค้าของสินค้าแต่ละชนิด และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ใช้งานในแต่ละช่องทาง
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น