Display mode (Doesn't show in master page preview)

15 มิถุนายน 2565

Econ Digest

เอกชนเร่งออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุน...รับดอกเบี้ยขาขึ้น

คะแนนเฉลี่ย



แรงกดดันต่อต้นทุนทางการเงินในไทยกำลังขยับสูงขึ้นตามทิศทางตลาดโลก หลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. รอบล่าสุดสะท้อนโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในการประชุมเดือนส.ค. 65 มากขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า อาจเห็นการขยับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในบางช่วงอายุ โดยเฉพาะช่วงอายุต่ำกว่า 2 ปี เพิ่มเติมได้อีก เพื่อตอบรับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ซึ่งแม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยจะขยับสูงขึ้น แต่ Credit Spread ของหุ้นกู้เอกชน (หรือส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้ภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นจากพันธบัตรรัฐบาล) ที่ทยอยปรับตัวลงมาก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินของภาคเอกชนได้บางส่วน จากแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ในขณะที่ Credit Spread ของหุ้นกู้ที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ตลอดจนแนวโน้มดอกเบี้ยของไทยที่กลับเป็นทิศทางขาขึ้น น่าจะเอื้อให้บริษัทเอกชนเข้ามาระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ทั้งเพื่อทดแทนรุ่นเก่าที่หมดอายุแล้วและเพื่อการลงทุนขยายกิจการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า มูลค่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวในปี 65 จะอยู่ที่กรอบประมาณ 1.10-1.20 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นยอดการออกหุ้นกู้ที่สูงกว่าระดับ 1 ล้านล้านบาทติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยประเด็นที่ต้องติดตามหลังจากนี้ก็คือ หุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวที่กำลังจะทยอยครบกำหนดอีกประมาณ 1.65 ล้านล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี 65 ไปจนถึงปี 67 โดยกลุ่มธุรกิจที่ควรจะต้องเตรียมวางแผนรับมือต้นทุนทางการเงินในช่วง 1-2 ปีข้างหน้ารับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ประกอบด้วยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ไฟแนนซ์ พลังงาน ไอซีที และการพาณิชย์ ตามลำดับ

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest