ราคาข้าวไทยทุกระดับตลาดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบ ดังต่อไปนี้
-ผู้ส่งออกไม่กล้ารับคำสั่งซื้อ เนื่องจากต้องแบกรับภาระขาดทุน สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศประเมินว่าการส่งออกข้าวในช่วงไตรมาส 2 จะลดลงร้อยละ 25-30
-ผู้บริโภคในประเทศต้องซื้อข้าวบริโภคในราคาที่แพงขึ้น
-ชาวนาขยายพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังปี 2551 รอบสองและสาม เพิ่มผลผลิตข้าวขาว คาดว่าในช่วงไตรมาสสองและสามราคาข้าวขาวจะพุ่งน้อยกว่าการพุ่งขึ้นของราคาข้าวหอมมะลิ ซึ่งจะออกสู่ตลาดอีกครั้งช่วงปลายปี 2551 นอกจากนี้คาดว่าในช่วงนาปีที่ผลผลิตออกสู่ตลาดช่วงไตรมาสสี่จะมีการขยายปริมาณการผลิตอย่างมาก โดยชาวนาจะลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่น ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช เครื่องจักรกลการเกษตร การพัฒนาและจัดหาแหล่งน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น
ประเด็นต่างๆที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาข้าวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 และปี 2552
-การเปิดประมูลข้าวของอินโดนีเซียและอิหร่าน เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ ยังไม่มีการสั่งซื้อข้าว หากทั้งสองประเทศนี้เปิดประมูลซื้อข้าวก็จะมีผลผลักดันให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
-การเปิดประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ในวันที่5พ.ค.2551โดยต้องจับตาการเข้าร่วมประมูลของเวียดนามทั้งในด้านการเสนอราคาประมูลและปริมาณที่เสนอขาย
-ในช่วงเดือนมิย.2551ต้องติดตามว่าเวียดนามจะเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดอีกหรือไม่ เนื่องจากมีผลผลิตข้าวฤดูร้อนออกสู่ตลาด และสิ้นสุดข่วงระยะเวลาระงับการรับคำสั่งซื้อข้าวจากต่างประเทศ
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ติดตามในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2551 ซึ่งเป็นต้นฤดูการผลิตข้าวปี 2551/52 ได้แก่ การเพิ่มผลผลิตข้าวเพื่อการส่งออกของประเทศคู่แข่ง โดยราคาที่อยู่ในเกณฑ์สูงเป็นแรงจูงใจ ประเทศที่ผู้ส่งออกข้าวที่ไทยต้องจับตาเป็นพิเศษคือ เวียดนาม และอินเดีย ซึ่งนโยบายการส่งออกข้าวทั้งสองประเทศนี้จะกำหนดทิศทางการแข่งขันของไทยในตลาดข้าวโลกตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2551 ในขณะที่ประเทศคู่ค้าข้าวต่างมีนโยบายขยายปริมาณการผลิตข้าว ทั้งนี้เพื่อความมั่งคงทางด้านอาหารของประเทศ ซึ่งจะทำให้ความต้องการนำเข้าข้าวมีแนวโน้มลดลง รวมทั้งปัญหาภัยธรรมชาติและการแพร่ระบาดของโรคและแมลงศัตรู โดยนับว่าเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่มีโอกาสสร้างความเสียหายให้กับปริมาณการผลิตข้าวได้อย่างมาก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น