สถานการณ์การส่งออกข้าวไทยมีแนวโน้มชะลอตัวติดต่อกัน 5 เดือน โดยปริมาณการส่งออกข้าวมีแนวโน้มชะลอตัวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 จนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ประเด็นที่น่าสนใจคือ ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก โดยมีสัดส่วนตลาดประมาณร้อยละ 30.0 ดังนั้นการที่ปริมาณข้าวส่งออกของไทยลดลงถึงเกือบร้อยละ 40.0 แล้ว สาเหตุใดที่ราคาข้าวในตลาดโลกยังไม่ได้รับผลกระทบ และราคาข้าวในตลาดโลกยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
การส่งออกข้าวของไทยชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยกดดันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยปัจจัยกดดันในประเทศคือ การกำหนดราคารับจำนำข้าวนาปีในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ทำให้ผู้ส่งออกข้าวไทยเสียเปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก ส่วนปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศ คือ ประเทศคู่ค้าข้าวของไทยหันไปซื้อข้าวราคาถูกจากเวียดนาม รวมทั้งแหล่งผลิตข้าวใหม่คือ พม่าและกัมพูชา ซึ่งปริมาณการผลิตข้าวของทั้งสองประเทศในปีนี้เพิ่มมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตและผู้นำเข้าข้าวหันไปขยายพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศ ทำให้การค้าข้าวในตลาดโลกลดลง
แนวโน้มราคาข้าวในช่วงที่เหลือของปี 2552 ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ ระยะเวลาและราคาที่ประเทศผู้นำเข้าข้าวพิจารณาเพื่อกลับเข้ามาซื้อข้าวในตลาดอีกครั้ง หลังจากที่สต็อกเริ่มลดลง หรือเมื่อผู้นำเข้ามองว่าราคาข้าวในตลาดโลกใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะส่งผลต่อราคาข้าวในช่วงที่เหลือของปี 2552 คือ ปริมาณผลผลิตข้าวนาปรัง ผลกระทบของสภาพอากาศต่อปริมาณผลผลิตข้าว ไม่ว่าจะเป็นภาวะภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงหรือน้ำท่วม รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายข้าวของประเทศผู้ผลิตข้าวสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการกลับเข้าตลาดของอินเดีย รวมทั้ง การชะลอการส่งออกข้าวของเวียดนาม และการกำหนดราคารับจำนำข้าวนาปรังของไทย ตลอดจนการระบายสต็อกข้าวของไทย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงระยะสั้น หรือตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่ยังกดดันราคาข้าวในช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยบวกและปัจจัยลบประกอบด้วยแล้ว ปัจจัยที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้กับราคาข้าวในช่วงที่เหลือของปีนี้คือ สภาพความผันผวนของสภาพอากาศและความกังวลถึงความมั่นคงทางด้านอาหารของแต่ละประเทศ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น