อุตสาหกรรมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยพลาสติกของไทย เป็นอุตสาหกรรมที่มีวิวัฒนาการมาจากอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายเฉพาะตลาดในประเทศเป็นสำคัญ เพื่อทดแทนการนำเข้าและรองรับความต้องการของผู้ซื้อสำหรับการใช้งานในครัวเรือน แต่ด้วยความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทย ประกอบกับได้มีการร่วมลงทุนกับนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น ทำให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ของไทยมีคุณภาพสม่ำเสมอ และสามารถผลิตได้เป็นปริมาณมาก จนพัฒนาสู่การผลิตเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์ตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัวทำด้วยพลาสติกในปี 2552 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า แม้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารทำด้วยพลาสติกจะสามารถเข้าไปทดแทนเครื่องถ้วยชามที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆ เช่น กระเบื้องและแก้วซึ่งแตกง่าย เป็นต้น ได้มากขึ้น แต่ด้วยแนวโน้มการบริโภคและจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือนในปี 2552 ที่น่าจะลดลงต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2551 จึงมีความเป็นไปได้ว่ายอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนภายในประเทศในปี 2552 อาจจะไม่แตกต่างจากปี 2551 มากนัก โดยมีสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีนเป็นคู่แข่งสำคัญในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศ
ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการออกแบบลวดลายและรูปทรงที่แปลกใหม่ ตลอดจนการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาดและเพิ่มแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภค ขณะที่มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ของไทยในปี 2552 อาจจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2551 ด้วยระดับอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,300-5,500 ล้านบาท
เพราะนอกเหนือจากคุณสมบัติของสินค้าที่สามารถใช้ทดแทนเผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและในครัวที่ผลิตจากวัสดุอื่นๆได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ประกอบกับปัจจัยทางด้านราคาที่ถูกกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยวัสดุอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการจับจ่ายที่ระมัดระวังมากขึ้นของผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ของไทยยังได้รับการยอมรับทางด้านคุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าเหนือคู่แข่งอย่างจีนอีกด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น