การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการพิจารณาให้สิทธิพิเศษจีเอสพี (GSP) ของสหรัฐฯ โดยในปีนี้ สหรัฐฯ คงอันดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทยให้อยู่ในสถานะจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List : PWL) ภายใต้กฎหมายมาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ซึ่งถือเป็นระดับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่รุนแรงมากเป็นอันดับที่ 2 แม้ว่าการจัดอันดับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้สิทธิพิเศษจีเอสพีที่สหรัฐฯ ให้กับสินค้าส่งออกของไทย สะท้อนจากปี 2550 ที่สหรัฐฯ ปรับลดสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยเป็น PWL จากเดิมที่อยู่ระดับจับตามอง (WL) แต่สหรัฐฯ ยังคงให้สิทธิจีเอสพีกับสินค้าส่งออกของไทยหลายรายการในปีดังกล่าว แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในภาวะถดถอย ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สหรัฐฯ จะใช้ประเด็นด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นมาตรการปกป้องการค้าเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจภายใน โดยอาจส่งผลต่อการพิจารณาทบทวนการให้สิทธิ จีเอสพีในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบซ้ำเติมการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ที่หดตัวอยู่แล้วในปีนี้
ในช่วง 3 ที่ผ่านมา การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ภายใต้สิทธิจีเอสพีมีสัดส่วนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนร้อยละ 22 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 17 ในปี 2551 สาเหตุสำคัญเนื่องจากสินค้าส่งออกสำคัญของไทย 3 รายการ ได้แก่ เครื่องประดับทำจากโลหะมีค่า เครื่องรับโทรทัศน์สี และเม็ดพลาสติก ถูกสหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพี ตั้งแต่ปี 2550 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า สิทธิจีเอสพีของสหรัฐฯ เป็นการให้ฝ่ายเดียวและมีความไม่แน่นอน เนื่องจากสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนกฎเกณฑ์การให้สิทธิจีเอสพีกับประเทศต่างๆ และหลักเกณฑ์การทบทวนการให้สิทธิจีเอสพีประจำปี ประโยชน์ที่ได้จากสิทธิจีเอสพีของสหรัฐฯ ในระยะยาวจึงอาจหมดไป การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของสินค้าส่งออกของไทยในสหรัฐฯ จึงควรต้องพิจารณาการเสริมศักยภาพการแข่งขันด้วยปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น การพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้มีต้นทุนต่ำลง การพัฒนาสินค้าและการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การคำนึงถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม และการสร้างเอกลักษณ์สินค้าด้วยรูปแบบและดีไซน์
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อยู่ในภาวะถดถอย ทำให้อุปสงค์ในตลาดสหรัฐฯ อ่อนแรง สินค้าราคาต่ำกว่าจึงน่าจะมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจของผู้นำเข้าและผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่มีกำลังซื้อต่ำลง ส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาในตลาดสหรัฐฯ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น การได้รับสิทธิพิเศษจีเอสพีจึงมีความสำคัญมากขึ้นต่อสินค้าส่งออกของไทยในสหรัฐฯ ในสถานการณ์ปัจจุบัน หากการยื่นขอผ่อนผันไม่ให้ระงับสิทธิจีเอสพีของไทยในสินค้า 9 รายการและการขอคืนสิทธิจีเอสพีสำหรับสินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จำนวน 3 รายการ ได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันด้านราคาให้กับสินค้าส่งออกของไทยเหล่านี้ในตลาดสหรัฐฯ ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ทางการไทยอยู่ระหว่างปรับปรุงกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเพิ่มบทลงโทษกับผู้ซื้อและผู้ประกอบการที่จำหน่ายของละเมิดทรัพย์สินปัญญา คาดว่าจะส่งผลดีต่อการพัฒนาปรับปรุงระบบการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในระยะยาว และยังจะเป็นปัจจัยบวกที่แสดงถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งน่าจะช่วยลดความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะใช้ประเด็นด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญามาเป็นมาตรการทางการค้าที่ตัดสิทธิจีเอสพีกับสินค้าส่งออกไทยซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมภาวะหดตัวของการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ที่ประสบอยู่แล้วในปัจจุบันให้รุนแรงมากขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น