ในปี 2552 นี้ ผลผลิตมันสำปะหลังมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสวนทางกับความต้องการใช้มันสำปะหลังที่มีปริมาณลดลง ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่ลดลงเนื่องมาจากตลาดจีนและตลาดยุโรปมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังลดลง รวมทั้งการใช้ภายในประเทศก็มีความต้องการใช้มันสำปะหลังลดลงเช่นกัน มูลเหตุเหล่านี้ส่งผลให้มันสำปะหลังในปีนี้ล้นสต็อก ทางรัฐบาลจึงได้หาทางออกในการแก้ปัญหาในระยะสั้น โดยมีการดำเนินมาตรการในการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น โครงการการรับจำนำมันสำปะหลัง ปล่อยกู้ระยะสั้น 6 เดือน ปลอดดอกเบี้ยให้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง มีการเจรจากับบริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ให้เข้ามารับซื้อมันสำปะหลังเพื่อใช้ในโครงการผลิตเอทานอล รวมทั้งมีการเจรจาด้านการส่งออกมันสำปะหลังผ่านช่องทางการค้าแบบรัฐบาลกับรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรที่จะวางแนวทางแก้ไขปัญหามันสำปะหลังระยะยาว โดยมีข้อกำหนดและประกาศให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทราบอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะรับซื้อมันสำปะหลังในแต่ละพื้นที่จำนวนเท่าใด และในราคาเท่าใดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้เกษตรกรตัดสินใจได้ว่าจะปลูกมันสำปะหลังหรือพืชอย่างอื่นทดแทน ภาคเอกชนเองก็สามารถจะต่อยอดและเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ และอีกทางหนึ่ง หากภาครัฐยังสนับสนุนให้มีการใช้มันสำปะหลังในการผลิตพลังงานทดแทน ภาครัฐก็จะต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาพลังงานทดแทนอย่างจริงจังและโดยต่อเนื่อง เช่น รัฐออกมาตรการสนับสนุนด้านยานยนต์
โดยการลดภาษีรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนเพื่อกระตุ้นความต้องการใช้ของผู้บริโภค หรืออาจจะเป็นการขึ้นภาษีนำเข้าน้ำมันแทน เพื่อเป็นการลดการนำเข้า แล้วดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาใช้พลังงานทดแทนที่มีราคาถูกกว่า เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อช่วยผลักดันยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานทดแทนของไทยให้เกิดผลสำเร็จสูงสุดเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของไทยในอนาคต และสุดท้าย เกษตรกรก็จะมีความยั่งยืนในด้านรายได้จากการขายผลิตผลทางการเกษตรในราคาที่เหมาะสมกับภาวะตลาด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น