ความต้องการบริโภคและการลงทุนภายในจีนที่ขยายตัวต่อเนื่องจากแรงขับเคลื่อนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนช่วยกระตุ้นให้มูลค่าส่งออกของไทยไปจีนในเดือนเมษายนหดตัวชะลอลงเหลือร้อยละ 13 (yoy) เทียบกับที่ลดลงร้อยละ 34 ในไตรมาสแรก (yoy) และเทียบกับที่ติดลบร้อยละ 14 ในเดือนมีนาคมก่อนหน้า (yoy) หากเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าพบว่าการส่งออกของไทยไปจีนในเดือนเมษายนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับตัวดีขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และภาคก่อสร้างของจีนที่ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการของทางการจีน ทำให้จีนมีความต้องการนำเข้าสินค้าขั้นต้นและสินค้าขั้นกลางของไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตเดียวกันและมีระดับการพึ่งพาค่อนข้างสูงกับการผลิตในอุตสาหกรรมของจีน ทำให้สินค้าส่งออกของไทยไปจีนเหล่านี้ได้รับแรงขับเคลื่อนตามไปด้วย
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยไปจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมาตรการของทางการจีนที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยขับเคลื่อนการบริโภคและการลงทุนภายใน โดยมาตรการล่าสุด ได้แก่ การขยายการอุดหนุนการซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้านเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ในบ้านชิ้นใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศปรับตัวดีขึ้น สินค้าส่งออกของไทยไปจีนที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะกระเตื้องขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ยางพารา เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
นอกจากนี้ การส่งออกของไทยไปประเทศเอเชียอย่างเกาหลีใต้และอินเดียมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน โดยได้เริ่มมีสัญญาณบวกในเดือนเมษายนนี้บ้างแล้ว เนื่องจากการบริโภคและการลงทุนของประเทศทั้งสองได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการด้านการเงินและการคลังของภาครัฐ คาดว่าการส่งออกของไทยไปประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างจีน รวมทั้งเกาหลีใต้และอินเดีย จะช่วยบรรเทาภาวะหดตัวของการส่งออกไปยังกลุ่มจี 3 ได้แก่ สหรัฐฯ กลุ่มยูโร และญี่ปุ่น ที่น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น