ผลจากราคาน้ำตาลตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับราคา 12.3 เซนต์ต่อปอนด์ในช่วงเดือนธันวาคม 2551 มาเป็น 14.4 เซ็นต์ต่อปอนด์ในช่วงเดือนเมษายน 2552 ในขณะที่ราคาน้ำตาลซื้อขายล่วงหน้าในตลาดโลกช่วงที่เหลือของปีเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 16.0-16.5 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ ในฤดูการผลิตปี 2551/52 นี้ ชาวไร่อ้อยมีโอกาสที่จะได้รับราคาอ้อยเพิ่มขึ้น จากเดิมที่กำหนดราคาอ้อยขั้นต้นไว้ที่ 830 บาทต่อตัน ณ ระดับความหวาน 10 ซีซีเอส. ในขณะที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่จะประกาศในช่วงปลายปี 2552 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 920 บาทต่อตัน ณ ระดับความหวาน 10 ซีซีเอส. และหากรวมกับค่าความหวานของอ้อยที่ทำได้ในปีนี้ระดับประมาณ 12.3 ซีซีเอส.จะทำให้ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่ได้รับทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อตัน ซึ่งรวมแล้วชาวไร่อ้อยทั้งประเทศจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นจากที่ได้รับราคาอ้อยขั้นต้นไปแล้วอีกประมาณ 11,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามเฝ้าระวังต่อไปได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะบั่นทอนโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าส่งออกน้ำตาลในรูปเงินบาทให้ลดลงไป ในขณะเดียวกัน ปัจจัยด้านราคาน้ำตาลตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน จูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยของไทยเร่งบำรุงตออ้อยเดิม ส่วนเนื้อที่เพาะปลูกอ้อยก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรที่เคยปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ มันสำปะหลัง บางส่วนก็จะหันมาปลูกอ้อยที่สร้างรายได้มากกว่า ประการสำคัญ ประเทศผู้ผลิตน้ำตาลรายสำคัญของโลกอาจมีการเพิ่มผลผลิตมากขึ้น จากแรงจูงใจด้านราคาน้ำตาลตลาดโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำตาลตลาดโลกในปีการผลิตต่อๆไป และเป็นตัวแปรกำหนดราคาอ้อยในอนาคตด้วยเช่นเดียวกัน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น