การเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ที่ขยายตัวร้อยละ 7.9 ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการขยายตัวดีขึ้น นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจจีนชะลอลงติดต่อกันตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 สาเหตุสำคัญที่เศรษฐกิจจีนเริ่มกลับมาขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากมาตรการช่วยเหลือของทางการจีนที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในจีน ทำให้จีนต้องการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าขั้นกลาง และสินค้าทุนที่ใช้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกของไทยไปจีนปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน โดยการส่งออกในเดือนมิถุนายนมีอัตราหดตัวเหลือเลขหลักเดียวที่ร้อยละ 3.6 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีนที่ปรับตัวดีขึ้น ที่สำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน คาดว่าจะส่งผลให้ความต้องการนำเข้าสินค้าของจีนจากประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยปรับตัวได้ดีขึ้นตามไปด้วย ขณะที่การส่งออกของไทยไปตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายนก็มีสัญญาณดีขึ้นเช่นกัน โดยอัตราหดตัวของการส่งออกไปสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ชะลอลงจากช่วงเดียวกันของปี 2551 (yoy) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความต้องการบริโภคของประเทศแกนนำของโลกเหล่านี้ที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ กลุ่มยูโร และญี่ปุ่นที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือนมิถุนายน คาดว่าเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะส่งผลให้การส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
ขณะเดียวกันปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่นำโดยกลุ่มประเทศแกนนำหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ กลุ่มยูโร และญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะส่งผลดีทางอ้อมต่อสินค้าส่งออกไทยไปจีนให้ปรับตัวได้ดีขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่อาจเติบโตได้เป็นบวก ตามความต้องการนำเข้าสินค้าของจีนเพื่อให้ผลิตเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศแกนนำหลักเหล่านี้ที่ถือเป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญของจีน ที่คาดว่าการส่งออกของจีนไปประเทศกลุ่มนี้น่าจะกระเตื้องขึ้นด้วย ตามความต้องการบริโภคของตลาดหลักที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้ การส่งออกในเดือนมิถุนายนของประเทศเอเชียหลายประเทศที่เริ่มทยอยประกาศออกมามีอัตรา หดตัวชะลอลง ซึ่งนอกจากประเทศจีนแล้ว ยังมีประเทศเกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น