Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 สิงหาคม 2552

เกษตรกรรม

ข้าวโพดหวานปี ‘52 : ส่งออกลดลง...ไทยต้องเร่งแก้ปัญหา (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2615)

คะแนนเฉลี่ย

ปัจจุบันไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากประเทศฝรั่งเศส และฮังการี โดยตลาดส่งออกที่สำคัญคือ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป แต่ไทยต้องเผชิญกับปัญหาการเรียกเก็บภาษีการตอบโต้การทุ่มตลาดมาตั้งแต่ปี 2550 ทำให้ไทยต้องเสียเปรียบคู่แข่งที่สำคัญอย่างสหรัฐฯ จีน และบางประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป เนื่องจากผู้ส่งออกของไทยต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 15.0 รวมกับการเรียกเก็บภาษีเอดีที่อัตราร้อยละ 3.1-12.9 (ทั้งนี้แต่ละบริษัทจะมีอัตราการเรียกเก็บภาษีเอดีที่แตกต่างกันไป)

กทั้งหลังจากที่ประเทศฮังการีได้เข้าไปเป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพยุโรป ส่งผลให้คู่ค้าที่สำคัญของไทยอย่างตลาดสหภาพยุโรปหันไปนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปจากฮังการีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งที่สำคัญในกลุ่มสหภาพยุโรป ได้แก่ สวีเดน ฟินแลนด์ อังกฤษ และกรีซ ซึ่งสหภาพยุโรปหันไปนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปจากประเทศเหล่านี้ด้วยกันเองมากขึ้น ส่งผลให้ไทยส่งออกไปยังสหภาพยุโรปลดลง

จากปัญหาดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงเสนอแนวทางที่คาดว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดของสหภาพยุโรป (AD) คือ ขยายตลาดส่งออกใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูป ตลาดส่งออกใหม่ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มประเทศยุโรปอื่น ๆ เช่น นอร์เวย์ กลุ่มประเทศเอเชีย เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เลบานอน และคูเวต เนื่องจากประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปในอัตราการขยายตัวที่เพิ่มขึ้น

หรับข้าวโพดหวานสดแช่เย็น แช่แข็ง ตลาดส่งออกใหม่ที่น่าสนใจ คือ ซาอุดิอาระเบีย แคนาดา สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และไต้หวัน อีกทั้งผู้ส่งออกของไทยไม่ควรตัดราคาจำหน่ายกันเอง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขายต่ำกว่าราคาที่กำหนด ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อตกลงตามที่ได้กำหนดไว้ นอกจากนี้ การแปรรูปข้าวโพดหวานเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของตัวผลิตภัณฑ์ เนื่องจากไทยได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนการผลิตข้าวโพดหวานซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่า เช่น ครีมข้าวโพด น้ำมันปรุงอาหาร น้ำนมข้าวโพด เป็นต้น และควรมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้ไทยยังคงเป็นตลาดส่งออกข้าวโพดหวานที่สำคัญของโลกต่อไป

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เกษตรกรรม