ปัจจุบันตลาดอาหารแช่แข็งในจีนเป็นตลาดที่น่าจับตามอง โดยยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของคนจีนที่เปลี่ยนมาดำเนินชีวิตในลักษณะคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่มากขึ้น กล่าวคือ ที่พักอาศัยนั้นเปลี่ยนเป็นคอนโดมิเนี่ยม หรืออาคารชุด ระยะเวลาในการประกอบอาหารรับประทานเองน้อยลง หรือไม่มีเวลาในการประกอบอาหารรับประทานเอง ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค โดยหันมานิยมอาหารจานด่วนหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งมากขึ้น
ซึ่งตลาดนี้ยังมีช่องว่างทางการตลาดในการที่ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าอาหารของไทยจะรุกเข้าไปเจาะขยายตลาดได้อีกมาก แต่ผู้ประกอบการไทยต้องปฏิบัติตามระเบียบด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของสินค้าตามมาตรฐานของจีนให้ได้ เพราะแต่ละมณฑลของจีนค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องนี้ ซึ่งการเจาะตลาดจีนน่าจะใช้ช่องทางจำหน่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ ประเภทคอนวีเนียนสโตร์ มินิมาร์ท หรือ เฟรชมาร์ท ซึ่งจะสะดวกต่อผู้บริโภคมากกว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เพราะอยู่ใกล้ที่พักอาศัยมากกว่า
เดิมตลาดส่งออกหลักๆ ของผู้ส่งออกอาหารแช่แข็งไทยอยู่ที่สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยสินค้าผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งที่ส่งออกไปในตลาดเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพรีเมียมสำหรับตลาดบนเกือบทั้งหมด เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อียู และญี่ปุ่น ทำให้การนำเข้าสินค้าอาหารแช่แข็งมีแนวโน้มลดลง เพราะแม้ว่าอาหารจะเป็นสินค้าจำเป็น
แต่ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าอาหารที่มีราคาถูกมากกว่า ดังนั้น ผู้ส่งออกอาหารแช่แข็งของไทยจึงหันมาขยายตลาดจีนทดแทน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งที่ไทยส่งออกไปยังตลาดจีนนั้น ถือว่ายังมีส่วนแบ่งตลาดค่อนข้างน้อย เพียงประมาณร้อยละ 3-4 ของผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งส่งออกทั้งหมดเท่านั้น นับว่าไทยยังมีโอกาสในการเจาะขยายตลาดอาหารแช่แข็งในจีนได้อีกมาก โดยเฉพาะในปี 2553
ซึ่งคาดการณ์ว่าแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งของจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อของคนจีน ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้ จีนยังมีการจัดงานเซี่ยงไฮ้เอ็กซ์โปในเดือนพฤษภาคม และงานเอเซียนเกมส์ในเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งรัฐบาลจีนประกาศให้ปี 2553 เป็นปีท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าอาหารของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น