World Cup 2010 กำลังจะปิดฉากลงที่ประเทศแอฟริกาใต้ในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนำรายได้เข้าสู่แอฟริกาใต้เป็นจำนวนมากคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้ปีนี้ให้เติบโตยิ่งขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า เศรษฐกิจแอฟริกาใต้ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นให้สินค้าส่งออกของไทยไปแอฟริกาใต้เติบโตได้ดีขึ้นด้วย โดยหนึ่งในสินค้าที่น่าจะมีศักยภาพ ได้แก่ รถบรรทุกสินค้า และส่วนประกอบยานยนต์(กันชน เข็มขัดนิรภัย กระปุกเกียร์ จานล้อ เบรค โช้กอับ เพลา คลัตช์ พวงมาลัย และถุงลมนิรภัย) ซึ่งปัจจัยสนับสนุนการส่งออกของไทยที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ของแอฟริกาใต้ที่ดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาทุนเนื่องจากแอฟริกาใต้เป็นฐานการผลิตยานยนต์ของทวีปแอฟริกากว่าร้อยละ 80 ของการผลิตยานยนต์ทั้งทวีปแอฟริกา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าความต้องการนำเข้าสินค้ายานยนต์ของแอฟริกาใต้จะมีสูงแต่ขณะเดียวกันไทยอาจต้องเผชิญการแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้นกับสินค้าราคาต่ำของจีนและอินเดียที่มีความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตและระยะทางขนส่งที่ใกล้กว่า นอกจากนี้ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันทางการผลิตจากนักลงทุนของแอฟริกาใต้และนักลงทุนต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ที่ต่างก็มีเครือข่ายการผลิตเป็นของตนเอง แต่อย่างไรก็ตามจากสถิติยอดขายรถยนต์ของแอฟริกาใต้พบว่ารถยนต์ของผู้ผลิตญี่ปุ่นติดอันดับรถยอดนิยมในแอฟริกาใต้สะท้อนถึงความสามารถในการครองส่วนแบ่งตลาดของค่ายรถยนต์เอเชียซึ่งส่งผลดีทางอ้อมต่อความต้องการนำเข้าสินค้ายานยนต์จากไทยที่เป็นเครือขายการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะการผลิตในพื้นที่ Gauteng, Eastern Cape และ Western Cape ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของแอฟริกาใต้กว่าร้อยละ 90 และมีนักลงทุนญี่ปุ่นกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนี้วัตถุดิบสินค้ายานยนต์ของไทยที่สามารถเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของแอฟริกาใต้ได้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกระจายสินค้าไทยไปยังประเทศอื่นๆในทวีปแอฟริกาผ่านกระบวนการผลิต/แปรรูปเพื่อการส่งออกผ่านข้อตกลงเขตการค้าเสรีและสหภาพศุลกากรของแอฟริกาใต้ที่จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีระหว่างกลุ่มในอัตราที่ต่ำ รวมทั้งนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์(Motor Industry Development Plan: MIDP)ของแอฟริกาใต้ที่มีแผนจะปรับลดอัตราภาษีนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ลงเหลือร้อยละ 20 ในปี 2555 จากปัจจุบันร้อยละ 25 อัตราภาษีที่ลดลงคาดว่าจะสนับสนุนการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งน่าจะส่งผลดีทางอ้อมต่อความต้องการนำเข้าสินค้ายานยนต์จากไทยในระยะต่อไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น