Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 กันยายน 2553

การค้า

ส่งออกไปสหภาพยุโรปช่วงที่เหลือของปี 2553 ... แนวโน้มชะลอตามเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลง (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2930)

คะแนนเฉลี่ย

การส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรป (EU27) ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 กลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 24.1 (YoY) หลังจากที่หดตัวร้อยละ 30.5 (YoY) ในช่วงเดียวกันของปี 2552 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ คือ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่ขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 รวมทั้งทิศทางการฟื้นตัวในช่วงครึ่งแรกปี 2553 ของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของสหภาพยุโรป ตลาดส่งออกสำคัญของไทยในสหภาพยุโรปส่วนใหญ่เป็นประเทศเศรษฐกิจหลักของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร สำหรับแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกของไทยไปตลาดสหภาพยุโรปอาจอ่อนแรงลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหภาพยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจนนัก อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ โดยเฉพาะกลุ่ม PIIGS ขณะที่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของสหภาพยุโรปและเป็นตลาดหลักในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกของไทยในตลาดยุโรปก็มีการคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าวอาจมีแนวโน้มชะลอตัวลงในครึ่งหลังปี 2553 นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งค่ากว่าเงินสกุลอื่นหลายสกุลในภูมิภาคโดยเปรียบเทียบ ก็อาจส่งผลบั่นทอนต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกของไทยพอสมควร จึงมีความเป็นไปได้ว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังตลาดสหภาพยุโรปทั้งปี 2553 อาจเพิ่มขึ้นเพียงประมาณร้อยละ 10-15 โดยสินค้าส่งออกของไทยไปยุโรปที่มีแนวโน้มจะต้องเผชิญความยากลำบากในการส่งออกมากขึ้น อาทิ สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่อาศัยกำลังซื้อและความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระดับหนึ่ง ขณะที่สินค้าจำเป็นกลุ่มอาหารน่าจะยังขยายตัวต่อไปได้ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันในตลาดสหภาพยุโรปที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรมีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดและรูปแบบสินค้า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดยุโรปมากขึ้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


การค้า