อ้อยและน้ำตาลทราย เป็นอีกหนึ่งพืชเกษตร ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท เพราะปริมาณน้ำตาลที่ผลิตได้ทั้งหมดนั้น จะใช้ภายในประเทศเพียงประมาณร้อยละ 30 ที่เหลืออีกร้อยละ 70 ส่งออกไปต่างประเทศ ดังนั้น รายได้จากการส่งออกน้ำตาล จึงมีอิทธิพลบ่งชี้ถึงทิศทางรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งประเทศ โดยเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุกๆ 1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำตาลหายไปประมาณ 2,000-2,100 ล้านบาท และทำให้ราคาอ้อยลดลงไปประมาณ 23 บาทต่อตัน หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปของชาวไร่อ้อยทั้งประเทศประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่า การแข็งค่าของเงินบาทในปัจจุบัน และมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นไปอีกในอนาคต จะกระทบต่อราคาอ้อยขั้นต้นในฤดูการผลิตปี 2553/54 ซึ่งคาดว่า อาจจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นปีการผลิตปัจจุบัน(อยู่ที่ระดับ 965 บาท/ตัน) ฉะนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ควรที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับแรงกดดันทางด้านเงินบาทที่แข็งค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีการผลิต 2553/54 นั้น พื้นที่เพาะปลูกอ้อยมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 3 แสนไร่ ตามปัจจัยราคาอ้อยที่อยู่ในระดับสูง ฉะนั้น ราคาอ้อยที่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีการผลิตก่อน จึงยิ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งระบบเป็นอย่างมาก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น