การส่งออกของไทยไปจีนในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ยังคงขยายตัวเร่งขึ้นในอัตราร้อยละ 28.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีมูลค่าสูงที่ 2,085 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นรองเพียงมูลค่าการส่งออกในเดือนธันวาคม 2553 ที่สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,094 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจจะสะท้อนได้ในระดับหนึ่งว่าจีนกำลังเตรียมสต็อกสินค้าล่วงหน้าในช่วงขาขึ้นของราคาสินค้า เพื่อบรรเทาปัญหาภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศไม่ให้ทวีความรุนแรงมากจนเกินไปในระยะข้างหน้า ขณะที่การนำเข้าจากจีนขยายตัวเพียงร้อยละ 6.9 (YoY) ส่งผลให้ไทยได้เปรียบดุลการค้าต่อจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีที่มูลค่า 254.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังนับเป็นยอดเกินดุลการค้าสูงสุดที่ไทยเคยได้ต่อจีนอีกด้วย ตรงกันข้ามกับเดือนก่อนหน้าที่สร้างสถิติยอดขาดดุลมากสุดที่ 521.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2554 ไทยเสียเปรียบดุลการค้าให้แก่จีนเพียง 266.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ แรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้การค้าไทย-จีนกระเตื้องขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาและต่อเนื่องมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ได้แก่ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ที่ได้เริ่มเปิดเสรีเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 ประกอบกับผู้ประกอบการไทยหลายรายต่างหันไปอาศัยประโยชน์จากการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ไทย-จีนกันมากขึ้นตามลำดับ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น