เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความแรงถึง 9.0 ริกเตอร์ และก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าใส่บ้านเรือน เป็นโศกนาฏกรรมที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมาก สำหรับภาคธุรกิจเองได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญของโลก ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ความรุนแรงจากแผ่นดินไหว ทำให้โรงงานหลายแห่งที่ได้รับความเสียหายยังไม่สามารถที่จะกลับมาผลิตสินค้าได้ตามปกติ ขณะที่โรงงานที่ไม่ได้รับความเสียหายมากนักและได้เริ่มกลับมาผลิตสินค้าแล้ว แต่ยังไม่สามารถกลับมาผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2554 นี้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีที่ทำให้การส่งออกสินค้าลดลงตามความต้องการที่ปรับลดลงในญี่ปุ่น และผลจากการขาดแคลนวัตถุดิบนำเข้ามาผลิตจากญี่ปุ่น ที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตในประเทศก็ตาม แต่คาดว่าจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมคาดว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตที่เป็นบวกได้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าส่งออกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์น่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 57,250-58,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 7.0-10.0 ชะลอลงเมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 25.7 ในปี 2553 โดยที่มูลค่าการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า ในปี 2554 นี้ จะมีมูลค่าประมาณ 22,635-23,050 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 10.0-12.0 เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 32.4 ในปี 2553 และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปี 2554 นี้ จะมีมูลค่าประมาณ 34,620-35,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 5.0-8.0 เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 21.9 ในปี 2553 โดยนอกเหนือจากการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปี แต่การเติบโตยังมาจากการที่บริษัทต่างชาติมีการขยายกำลังผลิตสินค้าในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และมีการส่งสินค้าออกไปยังตลาดใหม่เพิ่มมากขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น