การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2554 ยังคงพุ่งสูงขึ้นเกินความคาดหมายที่อัตราร้อยละ 30.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Year-on-Year) จากที่เติบโตร้อยละ 31.0 ในเดือนก่อนหน้า ด้านมูลค่าการส่งออกยังคงเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,259 ล้านดอลลาร์ฯ สำหรับการนำเข้าก็เร่งตัวขึ้นเช่นเดียวกัน แต่มีมูลค่าน้อยกว่าการส่งออก คืออยู่ที่ระดับ 19,473 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวร้อยละ 28.4 จากร้อยละ 22.5 ในเดือนก่อน ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนมีนาคมยังมียอดเกินดุลสูง 1,786 ล้านดอลลาร์ฯ
ภาพรวมในช่วงไตรมาสที่ 1/2554 การส่งออกมีมูลค่า 56,874 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวร้อยละ 28.3 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 54,177 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวร้อยละ 28.0 และดุลการค้าเกินดุล 2,697 ล้านดอลลาร์ฯ
สินค้าที่มีการส่งออกปรับตัวดีขึ้นกระจายตัวอยู่ในหลายกลุ่ม ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าสินค้าหลายประเภทยังรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการขยายตัวสูงของการส่งออกนั้น มีผลส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยด้านราคา โดยราคาส่งออกพืชผลทางการเกษตรโดยเฉลี่ยพุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 (YoY)
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกของไทยในไตรมาสที่ 2/2554 มีโอกาสที่จะชะลอตัวลงมาต่ำกว่าร้อยละ 13 (YoY) โดยเป็นผลมาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่น ทำให้อุตสาหกรรมส่งออกของไทยที่พึ่งพาชิ้นส่วนและวัตถุดิบหลักจากญี่ปุ่นไม่สามารถเดินสายการผลิตได้ตามแผนการที่วางไว้ ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นซึ่งอาจยาวนานไปถึงครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้แผนการผลิตของภาคอุตสาหกรรมของไทยที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนในญี่ปุ่นมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าการส่งออกของไทยในไตรมาสที่ 2/2554 มีโอกาสที่จะชะลอตัวลงมาต่ำกว่าร้อยละ 13 (YoY) ขณะที่แนวโน้มการส่งออกในระยะข้างหน้ามีความเสี่ยงที่จะเผชิญการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ครอบคลุมทั่วภูมิภาคต่างๆ ของโลก รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงทยอยปรับขึ้น แต่จากตัวเลขส่งออกที่ดีเกินความคาดหมายอย่างมากในไตรมาสแรก ปัจจัยด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีแรงหนุนในคงตัวในระดับสูง และโอกาสการฟื้นตัวของการส่งออกไปยังญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2554 นี้ขึ้นมาที่ร้อยละ 11.0-17.0 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 8.0-12.0
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น