จากรายงานสถิติอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยล่าสุดเดือนตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมเริ่มได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาน้ำท่วม ส่งผลทำให้ทั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งได้รับผลกระทบทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ทำให้ต้องมีการหยุดการผลิตหรือลดกำลังการผลิตลงเป็นการชั่วคราวนั้นพบว่า จากผลดังกล่าวทำให้ตัวเลขยอดขายรถยนต์ในประเทศ ที่รายงานโดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลดลงมาอยู่ที่ 42,873 คัน หดตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้วในอัตราที่สูงที่สุดในรอบกว่า 13 ปีที่ผ่านมา ที่ร้อยละ 40.5 (YoY) ขณะเดียวกันตัวเลขยอดการส่งออกรถยนต์เดือนตุลาคมที่รายงานโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยก็ลดลงมาเหลือเพียง 50,193 คัน หรือหดตัวร้อยละ 36.8 (YoY) ทั้งที่ในเดือนก่อน การส่งออกรถยนต์เพิ่งจะสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ที่ 90,654 คัน เช่นเดียวกันกับยอดการผลิตรถยนต์ที่ลดลงเหลือเพียง 49,439 คัน มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 112 เดือน หดตัวมากถึงร้อยละ 67.6 (YoY) จากที่เพิ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกันยายนที่ 174,212 คัน
แม้ว่าในปัจจุบันระดับน้ำจะเริ่มลดลงในหลายนิคมฯในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้เริ่มมีการดำเนินการกอบกู้นิคมฯ เพื่อให้โรงงานต่างๆสามารถเริ่มกลับมาผลิตได้ นอกจากนี้ค่ายรถที่ไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมโดยตรงก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้งตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตดังกล่าวยังเป็นกำลังการผลิตที่ไม่ได้อยู่ในระดับปกติ ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยยังคงต้องเผชิญกับภาวะการชะลอตัวต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่กำลังการผลิตของเกือบทุกค่ายรถจะทยอยฟื้นกลับคืนมาได้ โดยคาดว่าอาจจะเป็นช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ขณะที่การฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับปกติก่อนเกิดภัยน้ำท่วมพร้อมกันทุกค่ายรถ น่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายครึ่งแรกของปี 2555 ซึ่งจากทิศทางดังกล่าวทำให้ทั้งยอดขายรถยนต์ในประเทศ ยอดการส่งออก และยอดการผลิตรถยนต์ของไทยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2554 มีแนวโน้มที่จะหดตัวรุนแรง และส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยทั้งปี 2554 ด้วย
ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า การผลิตรถยนต์ในประเทศปี 2554 นี้ มีแนวโน้มหดตัวถึงร้อยละ 10 ถึง 7 (YoY) หรือลดลงมาเหลือ 1,485,000 ถึง 1,535,000 คัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศอาจจะทำได้เพียงอยู่ระหว่างหดตัวร้อยละ 1 ถึงขยายตัวร้อยละ 3 (YoY) หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ 795,000 ถึง 825,000 คัน ส่วนการส่งออกรถยนต์ก็มีโอกาสหดตัวสูงร้อยละ 15 ถึง 11 (YoY) หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ 765,000 ถึง 795,000 คัน
ในส่วนของปี 2555 นั้น ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในครั้งนี้ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์น่าที่จะคลี่คลายลงได้โดยอาศัยช่วงระยะเวลาไม่นานนัก จากปัจจัยบวกทั้งการเร่งฟื้นกำลังการผลิตรถยนต์ของแต่ละค่ายดังเช่นในช่วงที่สถานการณ์ผลกระทบจากสึนามิที่ญี่ปุ่นคลี่คลายลง ประกอบกับนโยบายกระตุ้นตลาดของรัฐบาล เช่น นโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรก จะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยเริ่มกลับมาคึกคักได้อีก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น