ราคายางในปี 2555 ยังมีแนวโน้มผันผวน ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อปริมาณการผลิตและความต้องการยางในตลาดโลก โดยปัจจัยที่ต้องจับตา คือ ความวิตกต่อวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซน ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งส่งผลทำให้อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มชะลอตัว รวมทั้งการเข้าซื้อหรือชะลอการซื้อยางของจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ยางอันดับ 1 ของโลก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคายาง นอกจากนี้ การปรับตัวของราคาน้ำมัน การเก็งกำไรของกองทุนโภคภัณฑ์ต่างๆในตลาดซื้อขายยางล่วงหน้า รวมถึงการดำเนินมาตรการของรัฐบาลในการเข้าแทรกแซงตลาดยาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพยุงราคายาง ก็ส่งผลกระทบต่อราคายางเช่นกัน ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ยังคงส่งผลให้คาดการณ์ว่าราคายางในปี 2555 ยังมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่องจากในปี 2554 หลังจากที่ราคายางอยู่ในช่วงขาขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าหลังช่วงตรุษจีนราคายางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางยังมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นไปจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 110.29 บาท/กก.(ราคา ณ วันที่ 20 มกราคม 2555) เนื่องจากคาดว่าสต็อกยางของจีนจะเริ่มปรับลดลง และจีนจะเริ่มกลับเข้ามาเริ่มซื้อยางอีกครั้ง รวมทั้งทางรัฐบาลอาจมีมาตรการเข้ามาพยุงราคาช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่หากเศรษฐกิจจีนไม่ชะลอตัวลงจากไตรมาสที่ผ่านมามากนัก (ซึ่งขยายตัวร้อยละ 8.9 ในไตรมาส 4 ปี 2554) ก็จะเป็นปัจจัยหนุนราคายาง อย่างไรก็ตาม อาจเป็นการยากที่ราคายางในปี 2555 จะกลับขึ้นไปอยู่ในระดับเท่ากับในปี 2554 ที่ราคาเฉลี่ยยางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลาง อยู่ในระดับ 132.42 บาท/กก. เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัว และปริมาณผลผลิตที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น