จากการที่รัฐบาลอินเดียอนุมัติให้ส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งโดยเสรีในปี 2555 หลังจากที่ในช่วงปลายปี 2554 อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งโดยกำหนดโควตาไว้ที่ 2 ล้านตัน นับว่าส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวโลกอย่างมาก โดยอินเดียเบียดแย่งสัดส่วนตลาดข้าวไทย โดยเฉพาะตลาดข้าวนึ่งทั้งในแอฟริกาและบังคลาเทศ รวมทั้งยังส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง โดยทั้งไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งและสองของโลก ต้องหันมาปรับลดราคาส่งออกเพื่อแข่งขันกับอินเดีย
ผู้ส่งออกข้าวของไทยต้องเร่งปรับตัวรับกับสภาพตลาดข้าวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการเร่งเจาะขยายตลาดข้าวที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยไทยยังมีความได้เปรียบในการส่งออกข้าวที่มีคุณสมบัติพิเศษหรือข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวอินทรีย์ ข้าวเสริมวิตามิน ข้าวผสมสมุนไพร เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าตลาดจะยังไม่กว้างมากนัก และยังต้องหันไปควบคุมในขั้นตอนการผลิต รวมทั้งยังต้องการการสื่อสารกับผู้บริโภคให้มั่นใจในผลิตภัณฑ์ แต่ตลาดข้าวประเภทนี้ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี และคุณภาพข้าวของไทยได้รับการยอมรับ ซึ่งแนวทางการเจาะขยายตลาดต้องเน้นจับตลาดผู้มีรายได้สูง และผู้ที่สนใจในเรื่องสุขภาพ หรือหันมารุกตลาดข้าวสารบรรจุถุงในประเทศ รวมทั้งหันมาขยายการผลิตผลิตภัณฑ์ข้าว ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แล้ว ยังเป็นการสร้างตลาดทั้งในประเทศและตลาดส่งออกเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันอีกด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น