การส่งออกของไทยไปจีนในช่วงไตรมาสแรกปี 2555 เติบโตเพียงร้อยละ 1.4 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชะลอตัวต่อเนื่องจากที่เติบโตร้อยละ 2.5 (YoY)ในไตรมาส4/2554 และนับเป็นอัตราอ่อนแรงลงสุดในรอบ 2.5 ปีด้วย ยิ่งหากพิจารณาจากมูลค่าการส่งออกของไทยไปจีนที่ไม่นับรวมน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบก็พบว่าได้หดตัวลงร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งสาเหตุหลักก็มาจากความต้องการในตลาดโลกที่ชะลอตัวลง ตลอดจนปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรป รวมไปถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่คุกคามเสถียรภาพการเติบโตของเศรษฐกิจจีน สะท้อนจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกของปีนี้ที่ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.1(YoY) จากระดับร้อยละ 8.9 (YoY) ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ยังผลให้ความต้องการสินค้าของตลาดภายในประเทศจีนจากตลาดโลกรวมถึงไทยในช่วง 3 เดือนแรกปี 2555 เป็นไปในทิศทางที่ชะลอตัวลง
แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของจีนนับจากนี้คงต้องหันมาเน้นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้ภายในประเทศเพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้นผ่านมาตรการต่างๆของภาครัฐฯชดเชยภาคการส่งออกของจีนที่ส่อเค้าอ่อนแรงลง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางจีนได้ขยายกรอบการเคลื่อนไหวของเงินหยวนให้กว้างขึ้น ก็น่าจะช่วยลดภาระในการเข้าดูแลค่าเงินหยวนของธนาคารกลางจีนลง ซึ่งก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ทางการจีนในการดำเนินนโยบายการเงิน (อัตราดอกเบี้ย สัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ และเงินหยวน) และนโยบายการคลัง เพื่อลดความเสี่ยงของการชะลอตัวอย่างรุนแรงของศรษฐกิจจีนลง ดังนั้น แม้ว่าการส่งออกของไทยไปจีนในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้อาจจะไม่ร้อนแรงนัก แต่อัตราการขยายตัวของการส่งออกไทยไปจีนในปีนี้น่าจะยังสามารถรักษาการเติบโตในแดนบวกได้ในระดับร้อยละ10-15 โดยที่จีนจะยังคงเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 1 ของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น