ตลาด CLMV เป็นตลาดในอาเซียนที่มีอนาคตค่อนข้างสดใสสำหรับการขยายตลาดส่งออกของสินค้าไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อาทิ ความเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์ ด้วยพรมแดนที่ติดต่อกันและมีเส้นทางคมนาคมทางบกที่เชื่อมโยงถึงกันทั้ง 4 ประเทศ อันเป็นปัจจัยเกื้อหนุนการกระจายสินค้าผ่านชายแดนของไทยไปยังประเทศ CLMV นอกจากนี้ ประเทศ CLMV ยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตของรายได้ในระดับสูง ทั้งยังมีทิศทางการเปิดเสรีมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการปรับลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 ในปี 2558 ซึ่งเป็นจังหวะเวลาเดียวกับเป้าหมายการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะช่วยให้สินค้าส่งออกของไทยมีโอกาสเติบโตรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่จะมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น
ท่ามกลางความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งเริ่มกระทบต่อการส่งออกของไทยไปยังตลาดหลักอย่างสหภาพยุโรป ประเทศ CLMV นับเป็นตลาดส่งออกดาวรุ่งของไทยที่เติบโตโดดเด่นจนมีสัดส่วนในการส่งออกของไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 7.8 เทียบกับสัดส่วนตลาดยูโรโซนที่อยู่ที่ร้อยละ 6.8 ของการส่งออกโดยรวมของไทย (ข้อมูลในช่วง 5 เดือนแรกปี 2555) ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกไปยัง CLMV อาจขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 ในปี 2555 มีมูลค่าประมาณ 18,700 ล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 570,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันหนึ่งที่ช่วยให้การส่งออกของไทยโดยรวมในปีนี้อาจขยายตัวในระดับประมาณร้อยละ 10 (กรอบคาดการณ์อยู่ในช่วงร้อยละ 7-15) ท่ามกลางความยืดเยื้อของวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน
ทั้งนี้ ภายใต้กรอบประมาณการปัจจุบัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะประสบภาวะถดถอย (โดยอัตราการขยายตัวอยู่ในช่วงหดตัวร้อยละ 0.8 ถึงขยายตัวร้อยละ 0.2) อย่างไรก็ดี หากปัญหาในยูโรโซนลุกลามถึงขั้นนำไปสู่วิกฤตการณ์เศรษฐกิจและการเงินอย่างรุนแรง จนฉุดให้ภาพรวมการส่งออกของไทยอาจถลำลงสู่แดนติดลบได้นั้น (ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดขึ้น) สำหรับตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน พม่า สปป.ลาว และกัมพูชา (CLM) คาดว่าจะยังสามารถรักษาการขยายตัวเป็นบวกได้ แม้จะเป็นอัตราที่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระบุไว้ข้างต้น เนื่องจากความต้องการสินค้าจากไทยของประเทศกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่นำไปใช้เพื่อการบริโภคในประเทศ และตอบสนองโครงการลงทุนระยะยาว
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น