แม้ว่าตลาดเบียร์ในประเทศปี 2555 จะมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ มีหลายปัจจัยที่กระตุ้นตลาดเบียร์ในประเทศ เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อของประชากร และการแข่งขันกีฬาระดับโลก เช่น ฟุตบอลยูโร 2012 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าปริมาณจำหน่ายเบียร์ในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นสูงถึงประมาณ 2,000 ล้านลิตร หรือขยายตัวร้อยละ 14.5 (YoY) และมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 125,000 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 4.2 (YoY) แต่หากพิจารณาถึงยอดขายย้อนหลังในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา พบว่าการขยายตัวของปริมาณจำหน่ายเบียร์ในประเทศมีอัตราที่ไม่สูงมาก รวมทั้งการแข่งขันในประเทศมีแนวโน้มทวีความรุนแรง และมุ่งเป้าขยายตลาดไปยังกลุ่มเบียร์ในระดับอีโคโนมีมากขึ้น ประกอบกับความเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการเบียร์ไทยจำเป็นต้องหาช่องทางขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดอาเซียน ซึ่งมีความน่าสนใจทั้งทางด้านของกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) การขยายตัวของจำนวนประชากร รวมถึงการเพิ่มขึ้นของปริมาณการบริโภคเบียร์ต่อหัวที่ยังคงเติบโตในอัตราสูงที่สุดภูมิภาคหนึ่งของโลก โดยมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 4-8 ต่อปี ขณะที่ตลาดในประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มบริโภคลดลง ส่งผลให้ตลาดเบียร์อาเซียนมีแนวโน้มขยายความต้องการมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ทิศทางการขยายตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มขยายฐานทั้งทางด้านการส่งออกสินค้า และการมุ่งเข้าสู่การลงทุนในรูปแบบของทั้งการหาพันธมิตรทางการค้า และการเข้าไปตั้งฐานการผลิต รวมถึงการเข้าไปควบรวมและซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สามารถเพิ่มยอดขายและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเบียร์ไทย เพื่อที่จะแข่งขันในระดับภูมิภาคในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น