ปี 2555 นี้ นับว่าเป็นอีกปีประวัติศาสตร์สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โดยเป็นปีที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยตัวเลขทั้งยอดขายในประเทศ ยอดการส่งออกและยอดการผลิตที่นอกจากจะสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ทั้งหมดแล้วยังสามารถทำสถิติตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยตัวเลขยอดขายในประเทศที่สูงเกินกว่า 1.4 ล้านคัน ยอดการส่งออกสูงกว่า 1 ล้านคัน และยอดการผลิตที่สูงถึงระดับ 2.4 ล้านคัน โดยเฉพาะในส่วนของยอดการผลิตที่อาจทำให้ไทยสามารถขยับตำแหน่งขึ้นเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลกได้ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัจจัยบวกที่สำคัญนอกจากการฟื้นคืนกำลังการผลิตสู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็วของค่ายรถหลังเกิดปัญหาน้ำท่วมในปีที่แล้ว และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการตลาดได้ดีแล้ว โครงการรถยนต์คันแรกนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ ซึ่งในช่วง Motor Expo นี้ ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งโอกาสในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2555 สำหรับผู้ที่คิดจะซื้อรถยนต์ใหม่ ก็คาดว่าจะได้อานิสงส์จากโครงการและสามารถปิดตัวเลขยอดจองที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ได้กว่า 60,000 คันเช่นเดียวกัน
ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในปี 2556 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคาดว่าน่าจะเป็นอีกปีที่ดีสำหรับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในส่วนของตลาดส่งออกที่การโยกกำลังการผลิตกลับมาเพื่อส่งออกมากขึ้นน่าจะทำให้การส่งออกยังคงขยายตัวได้ดีและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ต่อที่ระดับ 1,230,000 ถึง 1,290,000 คัน ขยายตัวร้อยละ 20 ถึง 26 ซึ่งจะไปช่วยชดเชยตลาดในประเทศที่อาจจะหดตัวลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 2 ถึง 7 หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 1,340,000 ถึง 1,410,000 คัน หลังจากที่ผลของโครงการรถยนต์คันแรกทำให้ความต้องการรถยนต์ในอนาคตถูกดึงไปใช้แล้วล่วงหน้า และส่งผลให้ยอดขายในช่วงครึ่งหลังมีโอกาสหดตัวลงจากช่วงเดียวกันในปี 2555 ซึ่งการส่งออกรถยนต์ที่เข้าไปช่วยชดเชยการหดตัวดังกล่าว ทำให้การผลิตรถยนต์ปี 2556 นี้มีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เช่นเดียวกันที่ตัวเลขระหว่าง 2,500,000 ถึง 2,600,000 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 5 ถึง 9
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น