ภาพรวมเครื่องปรับอากาศปี 2556 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มการเติบโตของที่อยู่อาศัยต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า อุณหภูมิในหน้าร้อนปีนี้ที่สูงขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัดสูงขึ้น การขยายตัวของช่องทางการจัดจำหน่าย และผู้ประกอบการทุ่มงบโฆษณาและออกแคมเปญเพื่อกระตุ้นยอดขาย นอกเหนือจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น การขยายตัวของตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศปี 2556 ยังคงต้องจับตามองปัจจัยท้าทายจากแรงกดดันของหนี้ภาคครัวเรือน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากภาระการผ่อนชำระรถยนต์คันแรกและบ้านหลังแรกที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากปีก่อนหน้า รวมถึงราคาสินค้าต่างๆที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งปัจจัยค่าครองชีพและภาระหนี้ของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอาจมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้อาจมีการชะลอการซื้อเครื่องปรับอากาศออกไป
จากแนวโน้มและปัจจัยสำคัญต่างๆดังกล่าวข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมของมูลค่าเครื่องปรับอากาศในประเทศปี 2556 จะมีมูลค่าประมาณ 24,230-25,700 ล้านบาท หรือมีมูลค่าขยายตัวประมาณร้อยละ 14.2-21.1 และมีปริมาณการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ 1.5-1.6 ล้านเครื่อง หรือขยายตัวร้อยละ 10.7-17.4 อย่างไรก็ดี อัตราการขยายตัวดังกล่าว ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ที่ขยายตัวร้อยละ 27.2 สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากฐานที่สูงในปี 2555 ซึ่งเป็นผลจากแรงหนุนที่สำคัญ เช่น การซื้อเพื่อทดแทนความเสียหายจากน้ำท่วมปี 2554 มาตรการบ้านหลังแรกของรัฐบาล เป็นต้น สำหรับแนวโน้มตลาดที่สำคัญในการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบกระแสผู้บริโภค คือ เทคโนโลยีอิเวอร์เตอร ทำให้ชวยประหยัดพลังงานไดอยางมีประสิทธิภาพซึ่งจะชวยประหยัดไฟมากกวามาตรฐานเบอร 5 ในปจจุบันถึงประมาณร้อยละ 35 และประหยัดไฟกวาเครื่องปรับอากาศทั่วไปร้อยละ 40 และเทคโนโลยีด้านสุขภาพ เช่น แผ่นกรองช่วยยับยั้งเชื้อโรคและกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น