การส่งออกของไทยไปจีนปีม้า เปิดตัวในเดือนมกราคม 2557 ด้วยภาพหดตัวร้อยละ 0.77 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่การนำเข้าจากจีนขยายตัวร้อยละ 3.4 (YoY) ทำให้ไทยเสียเปรียบดุลการค้ากับจีนเป็นมูลค่า 1,340 ล้านดอลลาร์ฯ ทำสถิติเป็นรายเดือนสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ การขาดดุลการค้ากับจีนเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง หลังจากในปี 2556 การค้าระหว่างไทยกับจีนทำสถิติครั้งใหม่ 2 ด้าน คือ ไทยเสียเปรียบดุลการค้ากับจีนทุบสถิติใหม่เป็นมูลค่า 10,488 ล้านดอลลาร์ฯ เสริมภาพบทบาทของจีนในแง่มุมของการเป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญของไทยมากขึ้นนับจากนี้ไป และหนุนให้จีนขยับขึ้นมาเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย แซงแชมป์เก่าอย่างญี่ปุ่นได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่าการค้ารวม 64,965 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.6 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย ตามมาด้วยญี่ปุ่นที่(สัดส่วนร้อยละ 13.2) สหรัฐฯ และมาเลเซีย ตามลำดับ
นับตั้งแต่ลดภาษีสินค้าระหว่างกันเกือบทั้งหมดภายใต้กรอบการค้าเสรี (FTA) อาเซียนกับจีนปี 2553 เป็นต้นมา ทำให้สินค้าที่ผลิตจากจีนหลั่งไหลเข้ามาสู่ไทยอย่างต่อเนื่องเติบโตร้อนแรงเฉลี่ยร้อยละ 22.9 ต่อปีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น สินค้าจากจีนที่เข้าสู่อาเซียนก็มีสัดส่วนสูงขึ้นเป็นร้อยละ 16.9 ในตลาดอาเซียนในปี 2556 (จากร้อยละ 8.5 ในปี 2546 ที่เริ่มจัดตั้งอาเซียน-จีน FTA) ซึ่งสินค้าจากจีนมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในทุกประเทศอาเซียน ขณะที่สินค้าไทยมีส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 4.3 เท่านั้น (จากร้อยละ 3.8 ในปี 2546)
การรุกเข้ามาอย่างก้าวกระโดดของสินค้าจีน ทำให้สินค้าของไทยเผชิญโจทย์ยากในปี 2557 ในการแข่งขันกับสินค้าราคาประหยัดจากจีนเพื่อชิงพื้นที่ตลาดในไทย โดยสัญญาณการแข่งขันของสินค้าจากจีนที่เข้ามาทำตลาดในไทยเข้มข้นขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้จากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนได้เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย รวมทั้งสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็เริ่มรุกมาทำตลาดอย่างมากด้วยการชูจุดเด่นของสินค้าที่มีประสิทธิภาพการใช้งานในหนึ่งเดียว (all-in-one) ด้วยราคาเหมาะสม นอกจากนี้ เมื่อมองข้ามไปถึงการรักษาพื้นที่ตลาดในอาเซียน ซึ่งสินค้าไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในบางประเทศอาเซียนให้แก่สินค้าที่ผลิตจากจีนไปบ้างแล้ว ตอกย้ำว่าธุรกิจไทยที่ทำการผลิตและส่งออกไปยังอาเซียนคงต้องเร่งปรับตัว อีกทั้ง นักลงทุนต่างชาติบางรายย้ายฐานการผลิตออกจากไทยไปยังประเทศอื่นในอาเซียน ยิ่งเพิ่มความท้าทายในการพัฒนาศักยภาพการผลิตและส่งออกของไทยที่มีปลายทางเป็นตลาดอาเซียน
สำหรับสินค้าที่มีเกณฑ์แข่งขันสูงขึ้นจากการรุกเข้ามาของสินค้าที่ผลิตจากจีน ซึ่งอาจเสียเปรียบในด้านขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรกล สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์จากจีนซึ่งเติบโตก้าวกระโดดและเป็นที่ต้องการรองรับการพัฒนาเมืองใหม่ในหลายประเทศอาเซียน
ดังนั้น ในปี 2557 ธุรกิจไทยคงต้องเผชิญความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจที่ผลิตสินค้าคล้ายคลึงกับจีนและเน้นทำตลาดในไทยและในอาเซียน ต้องเร่งปรับรูปแบบการทำธุรกิจ เน้นการแข่งขันด้านคุณภาพสินค้า เพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางการแข่งขันกับสินค้าจากจีนที่เร่งทำตลาดในอาเซียนขณะนี้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น