ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่การค้าข้าวของไทยเผชิญความท้าทายเป็นอย่างมาก ดังนั้น ช่องทางหนึ่งที่นับว่ามีความสำคัญและถือเป็นการพัฒนาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมข้าวไทยได้อย่างยั่งยืนคือ การสร้าง ;มูลค่าเพิ่ม” ให้กับสินค้าข้าว เพื่อทำให้ไทยมีจุดแข็งในการสร้างความแตกต่างให้กับข้าวไทยในเวทีโลก อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการส่งออกให้กับข้าวไทย ในภาวะที่ไทยมีความได้เปรียบทางด้านวัตถุดิบจำนวนมาก
;น้ำมันรำข้าว” นับเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวของไทยที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากความต้องการที่มีรองรับทั้งในและต่างประเทศ ตามกระแสความห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภค โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง เพื่อนำไปใช้บริโภคในระดับครัวเรือนและในระดับอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงต้องจับตาปัจจัยท้าทายทางด้านคู่แข่งโดยเฉพาะเวียดนามที่มีต้นทุนด้านวัตถุดิบราคาถูก ประกอบกับปัจจุบันในเวียดนามก็มีผู้ประกอบการต่างชาติ เช่น ชาวมาเลเซียเข้ามาลงทุนและทำตลาดน้ำมันรำข้าวแล้ว
ในระยะต่อไป ไทยควรเร่งยกระดับผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยการประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวผนวกกับเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ความสำเร็จของผู้ประกอบการน้ำมันรำข้าวไทยไม่ใช่แค่เพียงกระบวนการผลิตเท่านั้น แต่อาจต้องมีองค์ความรู้ และมีความสามารถในการทำตลาด รู้จักใช้ช่องทางต่างๆ ตลอดจนสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโฆษณาสมัยใหม่ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค เป็นต้น ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่องทางการวางจำหน่ายหลักๆ อาจยังคงอยู่ในห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ และโรงพยาบาล เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของน้ำมันพืชเพื่อสุขภาพระดับพรีเมี่ยม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น