ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปี 2557 คงเป็นอีกปีหนึ่งที่ผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์ต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำตลาดไม่ต่างจากปี 2556 ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดยังถูกกดดันจากภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้พฤติกรรมของภาคประชาชนประหยัดและมีการระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ในปี 2557 จะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 800 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 (YoY) โดยผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขนมไหว้พระจันทร์เฉลี่ยประมาณ 590 บาท/คน เทียบกับปีที่แล้ว ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 580 บาท/คน ซึ่งเม็ดเงินเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลทางด้านการปรับราคาขนมไหว้พระจันทร์มากกว่าผลจากการซื้อในปริมาณที่สูงขึ้น เนื่องจากการสำรวจ พบว่า กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะใช้งบประมาณในการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ใกล้เคียงกับปีก่อนถึงเกือบร้อยละ 70
เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่มีผู้ประกอบการในตลาดจำนวนมาก และยังมีรายใหม่ๆ ที่พร้อมเข้ามาขอมีส่วนแบ่งตลาดตลอดเวลา ทำให้การแข่งขันในตลาดขนมไหว้พระจันทร์ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความโดดเด่นแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาด เพื่อจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ซึ่งเป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีกำลังซื้อและพร้อมจะจับจ่ายและทดลองซื้อสินค้าที่สอดคล้องกับรสนิยมของตนเอง โดยมองปัจจัยด้านราคาเป็นเรื่องรอง โดยองค์ประกอบของขนมไหว้พระจันทร์ที่ควรพัฒนา อาทิ การพัฒนาไส้ขนมไหว้พระจันทร์ที่ต่างไปจากไส้ดั้งเดิม รวมถึงการพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ใช้วัสดุที่มีคุณค่าจะช่วยให้สินค้าดูโดดเด่น สะดุดตา สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถตั้งราคาจำหน่ายที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าก็ควรเพิ่มการสื่อสารไปถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ โดยสร้างการรับรู้ว่าขนมไหว้พระจันทร์ เป็นหนึ่งในประเภทขนมทานเล่นทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นเพียงขนมที่นำไปใช้สำหรับพิธีไหว้เท่านั้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น