การส่งออกในเดือนส.ค.2557 หดตัวมากกว่าที่คาดที่ร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเป็นสถานการณ์ที่แย่ลงกว่าที่หดตัวร้อยละ 0.85 (YoY) ในเดือนก.ค. 2557 โดยเป็นผลมาจากฐานเปรียบเทียบที่สูงในปีก่อน โดยเฉพาะการส่งออกทองคำที่หดตัวถึงร้อยละ 92.9 (YoY) ขณะที่ การส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปหดตัวลงต่อเนื่องเช่นกันที่ร้อยละ 35.0 (YoY) และร้อยละ 16.1 (YoY) ตามลำดับ นอกจากนี้ คำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่กลับมาหดตัวในทุกตลาด ทั้งตลาดส่งออกหลัก (สหรัฐฯ ยูโรโซนและญี่ปุ่น) และศักยภาพสูง (จีนและอินเดีย) รวมถึงราคาผลผลิตทางเกษตรตกต่ำ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ภาคการส่งออกยังอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่น่าเป็นกังวล อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการยังขยายตัวได้ดี เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาล เป็นต้น เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมอย่างคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้าที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
แม้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงคาดว่า มูลค่าการส่งออกรายเดือนของไทย น่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงเดือนท้ายๆ ของปี 2557 ตามอานิสงส์จากปัจจัยทางด้านฤดูกาลรับช่วงเทศกาลทั้งคริสต์มาสและปีใหม่และจากการเร่งใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในตลาดยุโรป แต่ภาพรวมการส่งออกที่มีสัญญาณซบเซามายาวนานตลอดช่วง 8 เดือนแรกของปี 2557 (ซึ่งยังคงหดตัวลงร้อยละ 1.36 YoY) สัญญาณการฟื้นตัวที่ยังมีภาพไม่แน่ชัดของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย รวมทั้งข้อจำกัดทางอุปทานและโครงสร้างการผลิตสินค้าที่ยังไม่ก้าวทันเทคโนโลยี สะท้อนว่าการฟื้นกลับมาขยายตัวของภาคการส่งออกในปีนี้ เป็นโจทย์เฉพาะหน้าที่มีความยากมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2557 อาจหดตัวลงร้อยละ 0.3 ซึ่งนับเป็นตัวเลขติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สอง จากที่หดตัวร้อยละ 0.2 ในปี 2556
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น