ในปัจจุบัน ไทยมีปริมาณขยะพลาสติกที่มาจากการบริโภคในชุมชนเป็นจำนวนมากซึ่งขยะพลาสติกดังกล่าวได้สร้างปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ในขณะที่การบริโภคผลิตภัณฑ์พลาสติกกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น
การรีไซเคิลเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและช่วยลดปริมาณขยะ และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ขยะพลาสติก โดยจากการประมาณการของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า การแปรรูปขยะพลาสติกเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเพื่อนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกใหม่จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ขยะพลาสติกมากถึงร้อยละ 126.8 – 147.4 ทั้งนี้ การรีไซเคิลขยะพลาสติกในไทยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2556 มีการรีไซเคิลขยะพลาสติกกว่า 0.8 ล้านตัน เติบโตกว่าร้อยละ 48.8 จากปี 2554 ที่มีการรีไซเคิลขยะพลาสติกอยู่ 0.5 ล้านตัน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2557 มูลค่าตลาดเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 23,560 ล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 14.7 จากปี 2556 โดยได้รับแรงผลักดันหลักจากปริมาณการรีไซเคิลขยะพลาสติกที่มีสูงขึ้นจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลในอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ เนื่องด้วยเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกใหม่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของเล่นเด็ก เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในปี 2558 อุตสาหกรรมรีไซเคิลจะยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจรีไซเคิลในไทยมากขึ้นทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวจะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านระบบการจัดการขยะรีไซเคิล โดยเฉพาะขั้นตอนการคัดแยกขยะ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2558 จะมีสัดส่วนการนำขยะพลาสติกไปรีไซเคิลเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 37.9 ในปี 2557 เป็นร้อยละ 40.0 ของปริมาณขยะพลาสติกทั้งหมด และน่าจะส่งผลให้ตลาดเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในไทยมีมูลค่าสูงถึง 27,520 – 28,900 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 16.8 – 22.7 จากปี 2557
Keyword: ขยะพลาสติก, พลาสติกรีไซเคิล, เม็ดพลาสติกรีไซเคิล, ผลิตภัณฑ์พลาสติก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น