เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด (แม่สอด SEZ) ถือเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษนำร่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุดจากศักยภาพทางเศรษฐกิจและพรมแดนที่เชื่อมต่อกับเมียนมา เห็นได้จากความสำคัญที่ทวีมากขึ้นของแม่สอดในฐานะด่านการค้าชายแดนที่มีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 10 ของมูลค่าการส่งออกชายแดนทั้งหมดของไทยในปี 2557 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับสัดส่วนเพียงร้อยละ 3.7 ในปี 2554
ทั้งนี้ ศักยภาพของแม่สอด SEZ มาจากตำแหน่งทางภูมิศาสตร์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับกิจการที่นำเข้าวัตถุดิบหรือส่งสินค้าไปจำหน่ายในเมียนมา ตลอดจนกิจการที่ต้องการใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งได้รับการยกระดับให้สะดวกยิ่งขึ้นผ่านการผ่อนผันกฏเกณฑ์ด้านนโยบายแรงงานที่อนุญาตให้กิจการในแม่สอด SEZ สามารถใช้แรงงานแบบไป-กลับได้ รวมไปถึง สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีในรูปแบบของการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมไปถึงการยกเว้นอากรขาเข้าและค่าใช้จ่ายที่อนุญาตให้หักเพิ่มเติม (Double tax-deductible expense) โดยกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กิจการเป้าหมายของกนพ. ซึ่งครอบคลุมกิจการที่ใช้แรงงานเข้มข้น และ 2) กิจการที่อยู่ในข่ายการส่งเสริมการลงทุนของ BOI นอกจากนี้ กิจการปกติที่ไม่สามารถยื่นขอสิทธิประโยชน์จาก BOI ยังคงได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร
ด้วยศักยภาพและสิทธิประโยชน์ดังกล่าวย่อมทำให้แม่สอด SEZ กลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจใหม่ที่จะเอื้อประโยชน์แก่นักลงทุนและผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานเข้มข้นในการผลิต โดยเฉพาะกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมในไทย ที่ต้องการขยายตลาดเป้าหมายไปยังเมียนมา แต่ยังไม่พร้อมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ และไม่มีหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic partner) ใน CLMV ทั้งนี้ กิจการที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดดำเนินงานของแม่สอด SEZ สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กิจการดั้งเดิมในพื้นที่ กิจการที่สามารถดำเนินงานได้ทันทีและกิจการที่มีศักยภาพ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังเมียนมาผ่านด่านแม่สอดจะสามารถขยายตัวได้เฉลี่ยร้อยละ 18 – 20 ต่อปี ในช่วงปี 2560 - 2565 เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีการจัดตั้ง SEZ ซึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าคงสามารถขยายตัวได้เพียงร้อยละ10–12ต่อปี ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาแม่สอดSEZ ในระยะข้างหน้าต้องมีการบูรณาการควบคู่ไปกับพัฒนาการของเมียวดีเพื่อสร้าง cluster ทางเศรษฐกิจใหม่ในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น