จากสัญญาณการฟื้นตัวของราคาข้าวอย่างชัดเจนในสองสัปดาห์แรกของเดือนส.ค.2558 แตะระดับเฉลี่ยที่ 8,160 บาทต่อตัน สูงสุดในรอบ 1 ปี นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อชาวนาในการพยุงรายได้ในระดับหนึ่ง กระนั้น ก็ยังคงไม่สามารถชดเชยผลของความเสียหายจากปริมาณข้าวที่สูญเสียไปจากภัยแล้ง โดยคาดว่า ภาพรวมรายได้เกษตรกรในปี 2558 จะยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งอาจเป็นอัตราการหดตัวที่มากกว่าปีก่อน ทั้งนี้ แม้ว่าราคาข้าวจะมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้น โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2558 ราคาข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อาจอยู่ที่เฉลี่ยราว 8,000 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 (YoY) จาก 7,713 บาทต่อตัน ในปี 2557 ขณะที่ยังคงต้องจับตาปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายปีนี้ ว่าจะสามารถสนับสนุนการปลูกข้าวนาปรังปี 2559 ได้ในระดับใด
อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวที่ปรับตัวขึ้นครั้งนี้ อาจเป็นเพียงผลระยะสั้นจากภัยแล้ง ดังนั้น ในระยะถัดไป ยังคงต้องจับตาปัจจัยแวดล้อมอื่น อาทิ ผลการระบายสต๊อกข้าวของไทย สถานการณ์การผลิตข้าวไทยจากผลของปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนและภัยแล้ง ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความยากลำบากของเกษตรกรที่กำลังเผชิญ ล่าสุด ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลได้มีแนวทางในการเร่งดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร/ผู้มีรายได้น้อยอย่างเร่งด่วน ทั้งในส่วนของการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ ตลอดจนเงินกู้จากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อกระจายเม็ดเงินลงสู่ภาคชนบทให้เร็วที่สุด อันจะเป็นการสร้างกำลังซื้อให้กับกลุ่มเกษตรกร/ผู้มีรายได้น้อย ซึ่งผลของมาตรการดังกล่าวนี้ ก็น่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านรายได้ของเกษตรกรได้ในระดับหนึ่ง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น