ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 2559 อุตสาหกรรมอาจจะกลับมาขยายตัวได้ในกรอบจำกัด และน่าจะมีมูลค่าประมาณ 32,700-33,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวร้อยละ 0.3 ถึงขยายตัวร้อยละ 2.1 จากปี 2558 โดยปัจจัยหลักที่กดดันภาพรวมการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์อาจเป็นโครงสร้างการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่ยึดโยงอยู่กับสินค้าคอมพิวเตอร์ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่าง HDDขณะที่ภาพรวมความต้องการคอมพิวเตอร์ในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มถดถอยต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยหนุนจากทิศทางการขยายตัวของการส่งออก PCB และ IC สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ตาม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า อนาคตการส่งออก HDD ของไทยจะยังคงถูกกดดันต่อเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจาก HDD ไปสู่ SSD ซึ่งมีแนวโน้มเข้ามาเป็นเทคโนโลยีหลักของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในหลายกลุ่มตลาด ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมใช้งานอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทดแทนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและแล็ปท็อป ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออก HDD ของไทยในปี 2559 อาจจะมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ราว 15,420.5-15,763.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวอย่างต่อเนื่องร้อยละ 1.2 ถึงขยายตัวร้อยละ 1 จากปี 2558
อย่างไรก็ดี การส่งออก PCB และ IC สำหรับยานยนต์ของไทยมีโอกาสเติบโตสูง สอดคล้องกับการขยายตัวของบทบาทของอิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์ โดยภาคการผลิต PCB และ IC ของไทยในปัจจุบันก็มีการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมรถยนต์ค่อนข้างมาก สำหรับปี 2559 การส่งออก PCB และ IC น่าจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ในตลาดโลก นำโดยตลาดรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาและยุโรปตะวันตก ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออก PCB ของไทยในปีนี้ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1,482-1,519 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 9.8-12.5 ขณะที่การส่งออก IC ของไทยในปีนี้ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 7,915 – 8,085 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 2.1-4.3 จากปี 2558
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น