Display mode (Doesn't show in master page preview)

11 มีนาคม 2559

อุตสาหกรรม

รถยนต์ในประเทศปี 59...คาดหดตัวร้อยละ 5 ถึง 10 SUV ไซส์เล็ก อีโคคาร์และปิกอัพ อาจมีโอกาสดีกว่ากลุ่มอื่น (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2712)

คะแนนเฉลี่ย

สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2559 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศ น่าจะยังอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงสูง ส่งผลให้อาจหดตัวได้ถึงร้อยละ 5 ถึง 10 หรือคิดเป็นจำนวนยอดขายรถยนต์ประมาณ 720,000 ถึง 760,000 คัน โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 มีโอกาสหดตัวสูง เนื่องจากมีการเร่งซื้อรถยนต์บางกลุ่มไปก่อนหน้าแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 เพื่อเลี่ยงผลจากการปรับขึ้นราคารถยนต์ตามหลังการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 โดยสถานการณ์ต่างๆ น่าจะเริ่มทยอยดีขึ้น หลังการประกาศราคารถยนต์ของค่ายต่างๆ มีความชัดเจนขึ้นแล้ว โดยนอกจากการปรับขึ้นราคารถยนต์แล้ว ปัจจัยลบสำคัญอื่นๆ ในปีนี้ ได้แก่ ภัยแล้งที่น่าจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงตกต่ำต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคายาง ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ระดับสูง ความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อที่ยังคงดำเนินต่อ ภาคการส่งออกที่ยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

ภายใต้สภาวะตลาดที่ท้าทายต่อเนื่องอีกปีนั้น คาดว่า ค่ายรถยนต์จะดำเนินกลยุทธ์หลายด้านเพื่อรักษาผลการดำเนินธุรกิจ โดยอาศัยกลยุทธ์หลายด้านประกอบกัน ซึ่งนอกจากการมุ่งผลักดันยอดส่งออกแล้ว ค่ายรถยนต์คงจะเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงหรือฐานลูกค้าที่ยังพอได้รับอานิสงส์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ผ่านการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มประเภทรถยนต์ที่ยังคงมีศักยภาพ พร้อมทั้งเน้นความคุ้มค่าด้านราคาและสมรรถนะ ควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

ด้วยกลยุทธ์ข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงมองว่า รถยนต์ในกลุ่ม SUV ขนาดเล็ก (B-SUV) อีโคคาร์ และปิกอัพ อาจทำตลาดได้ดีกว่ารถยนต์ประเภทอื่น โดยคาดว่ายอดขายรถ B-SUV ในปี 2559 อาจมีโอกาสทรงตัวจากปีก่อน หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ราว 33,000 คัน ขณะที่รถยนต์อีโคคาร์และรถปิกอัพ 1 ตัน มีโอกาสหดตัวไม่เกินร้อยละ 7 หรือคิดเป็นยอดขายรถอีโคคาร์ไม่น้อยกว่า 82,000 คัน และยอดขายรถปิกอัพ 1 ตัน ไม่น้อยกว่า 300,000 คัน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


อุตสาหกรรม