ไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวิกฤติภัยแล้งในปี 2559 ไปแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นปีที่แล้งหนักที่สุดในรอบ 20 ปี และขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อ 18 พ.ค.2559 ทำให้มีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิความแห้งแล้งที่มีก่อนหน้าลงไปได้บ้าง พร้อมกับสัญญาณบวกที่เริ่มส่งมาให้เห็น ทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนหลักเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน แต่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรในเดือนเม.ย.-พ.ค.2559 ที่มีอัตราการขยายตัวพลิกกลับขึ้นมาเป็นบวกใน 2 เดือนติดต่อกัน ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีที่รายได้เกษตรกรขยับขึ้นได้บ้าง แม้ในภาพรวมคาดว่ารายได้เกษตรกรปี 2559 น่าจะยังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า รายได้เกษตรกรในปี 2560 อาจให้ภาพที่ดีขึ้นกว่าในปี 2559 ที่รายได้เกษตรกรหายไปกว่า 64,161 ล้านบาท
ระยะถัดไป ยังคงต้องจับตาปริมาณน้ำฝนที่ตกว่าจะตกเหนือหรือใต้เขื่อน ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนในหน้าแล้งที่จะมาถึงในเดือนพ.ย.2559 นี้ โดยเบื้องต้นศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปริมาณน้ำต้นทุนใน 4 เขื่อนหลักในแล้งหน้าอาจอยู่ที่ราว 7,000-10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าปีก่อน แต่ก็ยังคงต้องระมัดระวังในการใช้น้ำ รวมถึงต้องจับตามาตรการภาครัฐที่ทยอยออกมาช่วยเหลือเกษตรกร ในภาวะที่ราคาสินค้าเกษตรยังผันผวน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น