ปี 2559 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ในประเทศ อาจหดตัวได้ถึงราวร้อยละ 5.8 หรือคิดเป็นจำนวนยอดขายรถยนต์ประมาณ 753,000 คัน โดยประเภทรถที่ช่วยหนุนตลาดในปีนี้มาจากรถยนต์ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ เช่น รถอเนกประสงค์ PPV และ B-SUV รวมถึงรถบรรทุก ท่ามกลางภาวะกดดันตลาดจากกำลังซื้อซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ การส่งออกที่ฟื้นช้า และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม พอเข้าสู่ปี 2560 คาดว่าตลาดรถยนต์จะมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้นจากปัจจัยบวกหลายด้าน ทำให้ผู้บริโภคในกลุ่มรายได้ปานกลาง กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มธุรกิจ มีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าตลาดรถเพื่อการพาณิชย์จะขยายตัวร้อยละ 3 ถึง 7 ดีกว่ารถยนต์นั่งที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2 ถึง 6 ส่งผลให้ตลาดรวมรถยนต์ในประเทศปี 2560 มีโอกาสขยายตัวร้อยละ 2 ถึง 6 คิดเป็นยอดขายรถยนต์ 770,000 ถึง 800,000 คัน
โดยประเภทรถที่คาดว่าจะมีการเติบโตดีกว่าตลาดรวม ได้แก่ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก รถยนต์นั่งหรูสัญชาติตะวันตก รถปิกอัพ และรถบรรทุก ซึ่งตลาดในภาคตะวันออกน่าจะมีโอกาสเติบโตได้ดีกว่าที่อื่น จากผลของการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่น่าจะเติบโตมาก หลังรัฐบาลเดินหน้าสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
ในส่วนของผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ดีลเลอร์รถยนต์ นอกเหนือจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการของตลาดในแต่ละประเภทรถ และภูมิภาคแล้ว การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค ทั้งต่อตัวรถยนต์ และบริการต่างๆ ที่ตามมาหลังการซื้อขายรถยนต์ จะก่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว ในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวเช่นนี้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น