มูลค่าส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิ.ย. 2560 อยู่ที่ 20,281.8 ล้านดอลลาร์ฯ แตะระดับ 20,000 ล้านดอลลาร์ฯ เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.7 YoY สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ร้อยละ 7.9 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดท่ามกลางทิศทางราคาสินค้าเกษตรที่ชะลอตัว สะท้อนปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของการส่งออกข้าวและการส่งออกน้ำตาล
นอกจากนี้ กระแส Internet of Things (IoTs) ของโลกเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนการขยายตัวของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยที่ขยายตัวสูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 19.1 YoY ซึ่งวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โดยทั่วไปจะมีระยะเวลา 2-3 ปี ซึ่งถ้าหากผู้ประกอบการไทยสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้สอดคล้องกับกระแส IoTs ก็น่าจะทำให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปีนี้
จากข้อมูลการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 จะเห็นว่า การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการค้าโลก รวมถึงวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์น่าจะเป็นแรงสนับสนุนหลักให้การส่งออกสินค้าศักยภาพของไทยสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่จากผลทางด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่อการส่งออกไทยที่ทยอยลดลงและคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องไปยังครึ่งปีหลัง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนลงจากช่วงครึ่งแรกของปี ก็น่าจะเป็นแรงกดดันให้การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในช่วงครึ่งปีหลังชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม จากมูลค่าส่งออกสินค้าไทยที่ขยายตัวสูงเกินคาดในช่วงครึ่งปีแรก จึงทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของมูลค่าส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปี 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.8 YoY จากเดิมที่ร้อยละ 2.0
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น