จากการที่รัฐบาลได้เปลี่ยนวิธีการคำนวณภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ที่ขายในประเทศเป็นรูปแบบใหม่ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้การแข่งขันในตลาดมีความเป็นธรรมมากขึ้น โดยการแก้ไขให้จัดเก็บบนฐานราคาขายปลีกแนะนำแทนฐานราคาหน้าโรงงานสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ และราคานำเข้า CIF สำหรับรถยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งคัน ทำให้ฐานราคาที่นำมาคำนวณภาษีตามวิธีใหม่สูงขึ้นกว่าแบบเดิมนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในระยะอันใกล้นี้อาจไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อรถยนต์ที่ผลิตในประเทศเท่าไรนัก เนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านภาระภาษีที่ธุรกิจจะต้องจ่ายอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ในแง่ของการปรับราคาขายรถยนต์น่าจะยังไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่มีการแข่งขันกันสูงในตลาดรถยนต์ ผู้บริโภคมีทางเลือกเยอะขึ้น และติดกับการได้รับโปรโมชั่นส่งเสริมการตลาดอย่างมาต่อเนื่องหลายปีทว่าในส่วนของธุรกิจนำเข้ารถยนต์อาจต้องเผชิญกับภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการคงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้
นอกจากนี้ การเปลี่ยนวิธีคำนวณภาษีแบบใหม่ ซึ่งรัฐบาลมองว่าจะช่วยให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกันมากขึ้นนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่า จะเป็นการส่งผลดีทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และช่วยจูงใจให้ค่ายรถหันมาลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะ กลุ่มรถยนต์หรู หรือรถยนต์ที่ปัจจุบันยังมีขนาดตลาดจำกัด แต่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต และรถพลังงานไฟฟ้าที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอยู่ในขณะนี้ โดยรถพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอจะยิ่งมีข้อได้เปรียบในด้านการแข่งขันเหนือคู่แข่งรายอื่น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น