Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 กันยายน 2560

อุตสาหกรรม

ผู้ประกอบการเครื่องดื่มไทย...ปรับตัวระมัดระวังท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมหลากหลายและภาษีสรรพสามิตใหม่ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2867)

คะแนนเฉลี่ย

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทยมีฐานการบริโภคกว้างเป็นผลให้ในตลาดมีสินค้าหลากหลาย ทำให้เกิดการทดแทนกันได้ของผลิตภัณฑ์ ส่งผลต่อเนื่องให้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างผู้ประกอบการเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดและออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาเพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน

อย่างไรก็ดี แม้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มจะมีมูลค่าตลาดค่อนข้างสูงแต่ภาพด้านการเติบโตอาจจะไม่สดใสมากนัก สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการจับจ่ายที่แปรผันตามกำลังซื้อของประชาชน กระแสการบริโภคของประชาชนที่ปรับเปลี่ยนตามเวลา ตลอดจนการออกกฎระเบียบควบคุมการบริโภคสินค้าบางประเภท นอกจากนี้ ล่าสุดกรมสรรพสามิตได้ประกาศอัตราภาษีใหม่เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผลของภาษีน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มยังมีภาพการเติบโตในกรอบจำกัด

จากการคำนวณของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบหลังการปรับภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มใหม่กับก่อนการปรับ ไวน์และชาพร้อมดื่มมีการเปลี่ยนแปลงของราคาขายปลีกมากที่สุด โดยมีการเพิ่มขึ้นของราคาขายปลีกใหม่ประมาณร้อยละ 21.1 และร้อยละ 7.5 ของราคาขายปลีกเดิม ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในสภาวะที่ครัวเรือนยังเผชิญแรงกดดันด้านกำลังซื้อ การที่ผู้ประกอบการจะส่งผ่านต้นทุนภาษีทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นด้วยการปรับขึ้นราคาขายปลีกอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม ดังนั้น คาดว่าผู้ประกอบการในตลาดคงมีการปรับตัวในหลายๆ แนวทาง เพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิมไม่ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคทั้งจากการปรับปรุงภาษีครั้งนี้และจากปัจจัยแวดล้อมหลากหลายที่มากระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ และในท้ายที่สุด ผู้ประกอบการยังสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดของตน

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


อุตสาหกรรม