การส่งออกสินค้าไทยในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 2560) ขยายตัวที่ร้อยละ 9.3 YoY โดยในเดือนก.ย. 2560 การส่งออกโตสูงต่อเนื่องที่ร้อยละ 12.2 YoY จากการส่งออกทองคำ สินค้าที่ราคาเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน รวมถึงสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าหักมูลค่าส่งออกทองคำและสินค้าที่ราคาเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันแล้ว การส่งออกสินค้าไทยขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 ทั้งนี้ การส่งออกของไทยที่ขยายตัวสูงเป็นไปตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งหนุนให้การส่งออกของประเทศในภูมิภาคเอเชียขยายตัวในระดับสูง
ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 3 ไตรมาสแรกถูกขับเคลื่อนด้วยการส่งออกสินค้าในกลุ่ม Electronic and Electrical Machinery (EE) รวมไปถึงยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง โดยการส่งออกสินค้ากลุ่ม EE คิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 30 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย สะท้อนถึงโครงสร้างการส่งออกของไทยที่มีองค์ประกอบของสินค้าต่างไปจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน
แนวโน้มการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะผ่อนแรงลงในระยะข้างหน้า โดยตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนตัว (PC) ในต่างประเทศเริ่มปรากฏแนวโน้มขาลงช่วงไตรมาส 3 สะท้อนจำนวนการส่งออกคอมพิวเตอร์ส่วนตัวโลกที่ลดลงร้อยละ 3.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน[1] ซึ่งจากทิศทางดังกล่าว ทำให้ยังคงจะต้องติดตามการส่งออกสินค้าในกลุ่มดังกล่าวในช่วงข้างหน้าต่อไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การส่งออกสินค้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 อาจจะผ่อนแรงลงจากช่วง 3 ไตรมาสแรก (ม.ค. –ก.ย. 2560) ที่ขยายตัวร้อยละ 9.3 จากผลทางด้านราคาที่ทยอยหมดลงหลังทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงไตรมาสที่ 4/2560 คาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวสูงเกินคาดจากผลของทองคำดังกล่าว อาจทำให้มีความเป็นไปได้ที่ตลอดทั้งปี 2560 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 7.0 YoY
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น