Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 พฤศจิกายน 2549

เกษตรกรรม

ไก่และผลิตภัณฑ์ในตลาดอียูปี 2550 : โควตานำเข้า...อุปสรรคส่งออกไก่ไทย (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1898)

คะแนนเฉลี่ย
ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2549 สหภาพยุโรปประกาศปรับระบบการนำเข้าสินค้าไก่หมักเกลือ เนื้อไก่งวง และไก่แปรรูป โดยกำหนดโควตานำเข้า หลังจากนั้นสหภาพยุโรปก็เจรจาทั้งกับบราซิลและไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่และเป็นผู้ที่จะได้รับชดเชยโควตาตามคำตัดสินขององค์การการค้าโลกจากการที่สหภาพยุโรปเก็บภาษีไก่หมักเกลือที่ส่งออกจากไทยและบราซิลผิดพิกัดภาษี ซึ่งทำให้บราซิลและไทยเสียภาษีนำเข้าสูงกว่าที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ตามสหภาพยุโรปและบราซิลสามารถบรรลุข้อตกลงในการชดเชยโควตาไก่หมักเกลือ เนื้อไก่งวงและไก่แปรรูปแล้วในช่วงเดือนตุลาคม 2549 ส่วนไทยนั้นยังรอการเจรจาขั้นสุดท้ายในวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2549 ว่าไทยจะได้รับโควตาเท่าใด ซึ่งปริมาณโควตาที่ไทยจะได้รับนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตการส่งออกไก่แปรรูปของไทย รวมทั้งยังจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยด้วย
ตลาดสหภาพยุโรป เป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในการส่งออกไก่แปรรูป อย่างไรก็ตามมูลค่าการส่งออกไก่แปรรูปไปยังสหภาพยุโรปในปี 2548 มีมูลค่าการส่งออกต่ำกว่าการส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 มูลค่าการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปก็พลิกกลับขึ้นไปเป็นแหล่งส่งออกอันดับหนึ่งของไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเท่ากับว่าการส่งออกไก่แปรรูปไปยังตลาดสหภาพยุโรปมีความสำคัญอย่างมาก การนำเข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของสหภาพยุโรปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 โดยเฉพาะการนำเข้าไก่แปรรูปจากไทย แม้ว่าจะมีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก และสหภาพยุโรปห้ามนำเข้าไก่สดแช่เย็นแช่แข็งจากไทยก็ตาม คาดการณ์ว่าในปี 2550 การนำเข้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของสหภาพยุโรปยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากคำตัดสินขององค์การการค้าโลกที่ให้สหภาพยุโรปลดภาษีนำเข้าสำหรับไก่หมักเกลือให้ไทยและบราซิล และกำลังการผลิตไก่แปรรูปของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ซึ่งจากสถานการณ์ในด้านการผลิตและการตลาดเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของสหภาพยุโรปที่เริ่มฟื้นตัวนั้นนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของไทย แต่ปัญหาใหญ่ในการส่งออกไก่และผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดสหภาพยุโรปในปี 2550 คือกรณีที่ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2549 สหภาพยุโรปประกาศจะปรับระบบการนำเข้าสินค้าไก่แปรรูป ไก่หมักเกลือและไก่งวงที่นำเข้าจากทั่วโลกเพื่อคุ้มครองผู้ผลิตในประเทศ โดยมีการกำหนดโควตาการนำเข้า ส่วนอัตราภาษีในโควตายังคงเท่ากับก่อนที่จะมีการกำหนดโควตา ส่วนภาษีนอกโควตานั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก โดยสหภาพยุโรปจะมีการเจรจากำหนดโควตากับผู้ส่งออกรายใหญ่ 2 ประเทศคือ บราซิลและไทย ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก การเจรจากับบราซิลมีสินค้าเนื้อไก่หมักเกลือ เนื้อไก่งวง และเนื้อไก่แปรรูป โดยการเจรจานั้นดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในปัจจุบันบราซิลเป็นประเทศผู้ส่งออกไก่หมักเกลือไปยังสหภาพยุโรปมากเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนการเจรจากับไทยมีเพียงสินค้าไก่หมักเกลือ และเนื้อไก่แปรรูป โดยการเจรจายังไม่เรียบร้อย คาดว่าทางสหภาพยุโรปจะประกาศมาตรการจำกัดโควตานำเข้าพร้อมการปรับขึ้นภาษีในอัตราใหม่ภายในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2550 ล่าช้ากว่าเดิมที่กำหนดไว้ 1 มกราคม 2550
อัตราภาษีนำเข้าและโควตานำเข้าไก่หมักเกลือ ไก่งวง และไก่แปรรูป
จำนวนโควตา
(ตัน)
อัตราภาษีในโควตา
อัตราภาษีนอกโควตา
(ยูโร/ตัน)
โควตาของบราซิล
(ตัน)
โควตาที่เหลืออยู่ของไทย
(ตัน)
ไก่หมักเกลือ
264,245
15.4%
1,300
170,807
93,438
ไก่งวง
103,896
8.5%
1,024
92,300
11,596
ไก่แปรรูป
230,453
10.9%
1,024
73,000
157,453
ที่มา : EU Commissioner for Agriculture and Rural Development
หมายเหตุ : สหภาพยุโรปชดเชยโควตาให้เฉพาะไทยและบราซิล
ปัจจุบันการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของไทยเกือบทั้งหมดเป็นการส่งออกไก่แปรรูป เนื่องจากไทยยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การโรคระบาดระหว่างประเทศว่าเป็นเขตปลอดโรคไข้หวัดนก ทำให้ไทยยังไม่สามารถส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นแช่แข็งได้ สหภาพยุโรปเป็นตลาดหลักในการส่งออกไก่แปรรูปส่วนชิ้นเนื้ออก และญี่ปุ่นเป็นตลาดหลักรองรับเนื้อไก่ถอดกระดูกส่วนเนื้อน่อง สะโพกและขา ดังนั้นการเจรจาในเรื่องโควตานำเข้าไก่แปรรูปของสหภาพยุโรปของประเทศไทยนั้นเท่ากับว่าเป็นตัวกำหนดอนาคตของการส่งออกไก่แปรรูป โดยถ้าไทยได้โควตาเพียง 140,000-150,000 ตัน ผู้ส่งออกและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไก่เนื้อของไทยจะมีเวลาในการปรับตัวเพียง 1-2 ปี ซึ่งจะสามารถส่งออกได้เต็มตามโควตาที่ได้รับ รวมทั้งในการเร่งหาตลาดใหม่ทดแทนและการปรับปริมาณการเลี้ยงรวมทั้งการแปรรูปให้สอดคล้องกับปริมาณการส่งออก แต่ถ้าไทยสามารถเจรจาให้ได้โควตาเพิ่มเป็น 200,000 ตัน ผู้ส่งออกและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไก่ของไทยจะมีเวลาปรับตัวนานขึ้นเป็น 3-4 ปี และด้วยความหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้นนอกจากการปรับตัวแล้วจะมีตัวช่วยคือ ไทยอาจจะได้รับการประกาศเป็นเขตปลอดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ทำให้ไทยสามารถส่งออกไก่สดแช่เย็นแช่แข็งอีกครั้งหนึ่งด้วย

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เกษตรกรรม