Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 ธันวาคม 2549

อุตสาหกรรม

ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนปีกุน : เงินสะพัด 21,000 ล้านบาท (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1917)

คะแนนเฉลี่ย
ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนนับว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอัตราการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนมาจากธุรกิจฟาสต์ฟู้ดส์ จนกระทั่งมีความเข้าใจกันว่าธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนนั้นมีเพียงร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วธุรกิจร้านอาหารที่เข้าข่ายแนวคิดธุรกิจอาหารบริการด่วนนั้นมีอยู่หลากหลายประเภท เช่น ร้านอาหารไทย/จีนประเภทจานด่วน ร้านกาแฟพรีเมี่ยมที่หันมาเพิ่มเมนูประเภทเบเกอรี่ แซนวิช และสลัดต่างๆ ร้านจำหน่ายเฉพาะเบเกอรี่ เค็กและแซนวิช ร้านจำหน่ายสเต็ก เป็นต้น จุดเปลี่ยนที่น่าจับตามองในช่วงระยะต่อไปนั้นอัตราการขยายตัวของธุรกิจฟาสต์ฟู้ดส์นั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงมากนัก ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนประเภทที่รวมอาหาร-เบเกอรี่และเครื่องดื่มอยู่ในร้านเดียวกันนั้นมีแนวโน้มเติบโตสูง ทั้งนี้อาศัยกระแสความนิยมบริโภคกาแฟสดที่เพิ่มมากขึ้นของคนไทยเป็นพระเอกหลักของร้าน ผนวกกับแนวคิดการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายภายในร้านเดียวกันไว้รองรับความต้องการของผู้บริโภค และการมุ่งสร้างสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงใจผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก่อให้เกิดร้านอาหารใหม่ๆภายใต้การลงทุนของผู้ลงทุนเดิมและผู้ลงทุนรายใหม่ ส่งผลให้ภาวะการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตามการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนที่ไม่ใช่ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์นั้นมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากในประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้จากมีกลุ่มนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าเปิดตัวสินค้าในกลุ่มธุรกิจนี้ รวมทั้งยังมีโอกาสที่จะก้าวไปขยายตัวในลักษณะแฟรนไชส์ในต่างประเทศอีกด้วยโดยอาศัยประเทศไทยเป็นฐาน ประเทศเป้าหมายคือ จีนและอินเดีย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี 2550 ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในประเทศไทยมีมูลค่า 21,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในปี 2549 แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 โดยธุรกิจอาหารบริการด่วนนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ธุรกิจร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ และร้านอาหารบริการด่วนที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว เช่น ร้านอาหารไทย/จีนประเภทจานด่วน ร้านกาแฟพรีเมี่ยม ร้านจำหน่ายเฉพาะเบเกอรี่ เค็กและแซนวิช ร้านจำหน่ายสเต็ก เป็นต้น ซึ่งความเคลื่อนไหวของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในไทยแยกออกเป็นดังนี้
1.ธุรกิจร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้ธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะผู้บริโภคเริ่มสนใจในเรื่องโภชนาการและคุณค่าของอาหารมากขึ้น ดังนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ด้วยการปรับเมนูอาหารที่หันไปเน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการใส่ใจในรายละเอียดโดยเฉพาะปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวในแต่ละเมนู ภายใต้แนวคิดฟาสต์ฟู้ดส์ไขมันต่ำ ทั้งนี้เพื่อแก้ไขภาพลักษณ์ให้เป็นอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ที่ดีต่อสุขภาพ
คาดว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจฟาสต์ฟู้ดส์ในปี 2550 เท่ากับ 14,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณร้อยละ 67 ของมูลค่าธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนทั้งหมด ปัจจุบันสีสันของการแข่งขันในกลุ่มฟาสต์ฟู้ดส์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ฟาสต์ฟู้ดส์ประเภทไก่ และพิซซ่า
2.กลุ่มร้านอาหารบริการด่วนที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว คาดว่าในปี 2550 กลุ่มอาหารบริการด่วนที่มีเฉพาะตัวมีมูลค่าตลาดประมาณ 7,000 ล้านบาทหรือร้อยละ 33.0 ของมูลค่าธุรกิจอาหารบริการด่วนทั้งหมด ธุรกิจกลุ่มนี้แม้ว่ามูลค่าจะยังน้อยกว่าธุรกิจร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ แต่นับว่าเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์สูงประมาณร้อยละ 15.0 อย่างต่อเนื่องตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าสูงกว่าอัตราการขยายตัวของทั้งธุรกิจฟาสต์ฟู้ดส์และธุรกิจร้านอาหารที่มีการบริการเต็มรูปแบบที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 5-7
ในปี 2550 ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนจะมีการปรับตัวอีกครั้งเพื่อให้อยู่รอดได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายใหม่และจะเป็นการชี้ชะตาว่าผู้ประกอบการรายใดมองแนวโน้มตลาดได้อย่างเฉียบขาดก็จะได้รับประโยชน์มหาศาลจากการที่สามารถดึงส่วนแบ่งตลาดของคู่แข่งมาได้โดยไม่ยากเย็นนัก ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนนับว่ายังเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากมูลค่าของตลาดอยู่ในเกณฑ์สูง และยังมีโอกาสในการขยายตลาด แต่จะต้องมีการศึกษาวิจัยทั้งนี้เพื่อค้นคว้าวิจัยเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งยังเป็นตลาดที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


อุตสาหกรรม