การส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบไทยปี 2567 เผชิญความท้าทาย
ทั้งจากผลผลิตมันสำปะหลังที่ลดลงจากเอลนีโญโดยเฉพาะในไตรมาสแรก
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก
รวมถึงผลของโรคใบด่างมันสำปะหลัง
จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตมันสำปะหลังไทยทั้งปี 2567 ให้ลดลงราวร้อยละ
6.3-10.0 (YoY) หรืออยู่ที่ 24-25 ล้านตัน
ขณะที่การนำเข้ามันสำปะหลังก็คงทำได้ไม่ง่ายนัก
เนื่องจากประเทศหลักที่ไทยนำเข้าอย่างสปป.ลาว และกัมพูชา
ต่างก็มีผลผลิตมันสำปะหลังลดลงเช่นกันจากเอลนีโญ
จะกดดันอุปทานมันสำปะหลังไทย
และกระทบต่อปริมาณการผลิตและปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบของไทย
ขณะที่อุปสงค์ของจีนที่อ่อนแรง ตามภาวะเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าในปี 2567
จะฉุดรั้งความต้องการและกดดันการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบของไทยไปจีน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า
มูลค่าการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบของไทยไปจีนในปี 2567 อาจลดลงที่ร้อยละ 8
(YoY) หรืออยู่ที่ 908 ล้านดอลลาร์ฯ
จากแรงฉุดด้านปริมาณที่ลดลงเป็นหลักราวร้อยละ 9 (YoY) หรืออยู่ที่ 1.7
ล้านตัน ขณะที่ราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 หรืออยู่ที่ 525 ดอลลาร์ฯต่อตัน
นอกจากฝั่งรายได้ ผู้ส่งออกไทยคงเผชิญความท้าทาย
ทั้งจากต้นทุนการผลิตยืนสูง โดยเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบที่มีราคาสูง
ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 75 ของต้นทุนการผลิตแป้งมันสำปะหลังดิบรวม
อีกทั้งต้นทุนการผลิตอื่นก็สูงเช่นกันอย่างค่าแรงงานและค่าไฟ
ล้วนกดดันรายได้สุทธิของผู้ผลิตและผู้ส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบไทย
รวมไปถึงการแข่งขันกับแป้งสาลี ซึ่งจีนอาจเลือกใช้แป้งสาลีมากขึ้น
จากราคาข้าวสาลีโลกที่ปรับลดลง
เหล่านี้จะกดดันการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบของไทย
ทั้งนี้ หากสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังของไทยเอื้ออำนวยมากขึ้น
ผู้ประกอบการอาจพิจารณาขยายการส่งออกแป้งมันสำปะหลังดิบไปยังตลาดที่น่าสนใจอย่างมาเลเซีย
ที่มีความต้องการวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารจากการที่เป็นแหล่งผลิตอาหารฮาลาลสำคัญของโลก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น