สงครามรัสเซีย-ยูเครนได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โลกเป็นวงกว้างทั้งจากการเพิ่มปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีอยู่เดิม เนื่องจากทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบหลายตัวสำหรับการผลิตชิปอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่อีกด้านหนึ่งมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียได้เร่งปัญหาภาวะเงินเฟ้อโลกให้เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคโดยรวมลดลง ซึ่งย่อมจะกระทบต่อความต้องการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างรถยนต์ตามมา
กลับมาที่ฐานผลิตรถยนต์ในไทย แม้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะไม่รุนแรงเท่าฐานผลิตในยุโรปด้วยสถานการณ์ที่ต่างออกไป เพราะประเทศผู้นำเข้ารถยนต์จากไทยมากกว่า 1 ใน 3 ได้รับผลกระทบไม่มากในด้านเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับตลาดอื่น เพราะเป็นกลุ่มประเทศที่ได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำลังเร่งตัวขึ้น ทว่า แรงกดดันจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่เกิดจากสงครามและการคว่ำบาตรรัสเซียอันยืดเยื้อย่อมจะกระทบต่อการผลิตและส่งออกรถยนต์ในระยะข้างหน้าอย่างไม่อาจเลี่ยง
เหล่านี้เป็นปัจจัยฉุดที่สำคัญทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าปริมาณการส่งออกรถยนต์ไทยในปี 2565 นี้มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ระหว่าง 850,000 ถึง 900,000 คัน (-6.0% ถึง -11.0% (YoY)) โดยโอกาสที่จะช่วยพยุงตัวเลขส่งออกในปีนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ จะยุติลงได้รวดเร็วเพียงใด รวมถึงค่ายรถหน้าใหม่ในไทยอย่างจีนจะสามารถส่งออกตามแผนที่เคยวางไว้หรือไม่
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น