ภาคอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Greenhouse Gases (GHG)
สูงกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่กำลังส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะข้างหน้า
บริษัทจดทะเบียนไทยมี Emission Intensity สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก
ในภาคสาธารณูปโภคเนื่องจากการใช้ก๊าซธรรมชาติ
น้ำมันและถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าและภาควัสดุจากกระบวนการผลิต
ซึ่งจะส่งผลต่อการปล่อย GHG ของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทาน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าธุรกิจในระยะ 1 - 2 ปีข้างหน้ากลุ่มโรงไฟฟ้า
ซีเมนต์ เหล็ก ปุ๋ย และอะลูมิเนียม
จะเผชิญกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดจากมาตรการของไทยและต่างประเทศ
โดยภาครัฐต้องเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้ง่ายต่อการลงทุน
ให้เงินทุนสนับสนุนงานวิจัย
และใช้กลไกราคาในสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคหันมาใช้สินค้า GHG
ต่ำ อีกทั้งธุรกิจจะต้องมีการลดการปล่อย GHG
เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น