เทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 กันยายน 2564 ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจขนมไหว้พระจันทร์ จากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายและมีระดับความรุนแรงมากกว่าปีก่อน ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศยังคงเปราะบาง และส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ นอกจากนี้ ด้วยข้อจำกัดของการบริโภคที่แม้ว่าจะเป็นสินค้าเฉพาะเทศกาลแต่ก็มีระดับราคาที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้บรรยากาศจับจ่ายขนมไหว้พระจันทร์ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวกลับมา
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ปี 2564 อาจมีมูลค่าประมาณ 755 ล้านบาท หดตัว 5.7% จากปี 2563 ที่หดตัว 15.8% จากแรงฉุดด้านปริมาณเป็นหลัก โดยกลุ่มที่เจาะฐานลูกค้าในตลาดแมสซึ่งมีสัดส่วนสูง ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่เปราะบางท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่กลุ่มที่เจาะลูกค้าพรีเมียมแม้ประคองตัวได้แต่ก็เผชิญความท้าทายด้านการแข่งขันที่สูงจากจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การรับมือกับสภาพตลาดที่ไม่เอื้อต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคในภาพรวม การบริหารต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและวางแผนกำลังการผลิตให้เหมาะสม ยังจำเป็นต่อการประคับประคองยอดขาย ในขณะเดียวกัน การสร้างกิมมิกใหม่เพื่อชูจุดขาย สร้างความแตกต่างและน่าจดจำ ยังมีช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับธุรกิจเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้บางส่วน นอกจากนี้ การขยายช่องทางการขายหรือร่วมมือกับพันธมิตรในการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ตลอดจนการขยายเวลาของการทำตลาดเร็วขึ้นให้ครอบคลุมหลายเทศกาล ยังมีส่วนต่อการสร้างโอกาสในการขายให้มีเพิ่มมากขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น