นับแต่ช่วงต้นปี 2566 แรงกดดันต่อข้อกล่าวหาว่า ผู้ผลิตจีนใช้ฐานการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ใน 4 ประเทศอาเซียนรวมถึงไทยเพื่อเลี่ยง AD/CVD มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากความเห็นต่างของรัฐสภาสหรัฐฯ ต่อคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการเลื่อนประกาศผลไต่สวนขั้นสุดท้ายจากต้นเดือนพฤษภาคมไปเป็นกลางเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ เริ่มปรับไปนำเข้าจากแหล่งใหม่อย่าง “อินเดีย” ขณะที่ผู้ผลิตจีนบางรายในเวียดนามก็เริ่มขยับไปใช้ฐานประกอบในประเทศดังกล่าว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตจีนบางรายในไทยที่เข้าข่ายเลี่ยง AD/CVD อาจจะปรับแผนการผลิตของตนเร็วกว่าที่คาด และส่งผลกดดันการส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ไทยไปสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะทำให้มูลค่าส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ไทยไปยังสหรัฐฯ ในปี 2566 เติบโตเพียงร้อยละ 30 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราวร้อยละ 57
ทั้งนี้ แม้ทิศทางอัตราการเติบโตจะให้ภาพที่ชะลอลง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากมองว่าสหรัฐฯ ยังมีความต้องการใช้แผงโซลาร์เซลล์เพื่อสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าในจังหวะที่การลงทุนเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานขึ้นเองภายในประเทศยังต้องอาศัยเวลาอีกระยะหนึ่ง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น