เบื้องต้นยางล้อไทยโดนตัดสินมาตรการ AD จาก สหรัฐฯ ... ไทยควรเร่งปรับลดต้นทุนในระยะยาวเพื่อคงความสามารถแข่งขัน (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3179)

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯได้ประกาศผลการไต่สวนในเบื้องต้นแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ว่ายางล้อรถยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็กจากไทยมีความผิดฐานทุ่มตลาดร่วมกันกับอีก 3 ชาติที่เหลือ ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และเวียดนาม โดยในระหว่างรอผลตัดสินขั้นสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2564 ผู้นำเข้ายางล้อจากไทยจะต้องเสียภาษี AD ชั่วคราวในอัตราระหว่าง 13.25% ถึง 22.21%

อนึ่ง แม้ในท้ายที่สุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ภาษี AD ของไทยมีโอกาสที่จะลดลงได้กว่าที่สหรัฐฯตั้งไว้ในเบื้องต้น หรือแม้แต่บางบริษัทอาจหลุดจากข้อกล่าวหาได้ด้วยเช่นกัน ทว่า ในกรณีเลวร้ายหากสุดท้ายยางล้อจากไทยต้องโดนเรียกเก็บภาษี AD ในอัตราดังกล่าวจริงทั้งหมดทุกบริษัท จะทำให้ช่วง 1 ถึง 2 ปี แรก ที่ไทยยังอยู่ในช่วงของการปรับตัวนี้ น่าจะเป็นช่วงที่ไทยจะเสียเปรียบในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่มีโอกาสพลิกขึ้นมาแข่งขันกับไทยได้มาก ซึ่งแม้ในมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทย เมื่อเทียบกับคู่แข่งส่วนใหญ่ทั้งยางล้อที่ผลิตในสหรัฐฯเองและที่นำเข้ามาจากต่างประเทศแล้ว ไทยจะยังคงมีความได้เปรียบที่เหนือกว่าจากระดับราคาที่ต่ำแม้จะมีการปรับขึ้นภาษี AD แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มยางล้อรถยนต์นั่ง แต่ในกลุ่มยางล้อรถบรรทุกเล็ก อาจให้ผลตรงข้ามหากถูกปรับขึ้นภาษี AD ในระดับดังกล่าวจริง โดยความสามารถในการแข่งขันของไทยมีโอกาสจะลดลงได้สูง

้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าการส่งออกยางล้อระยนต์นั่งและรถบรรทุกเล็กรวมกันของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อาจทำได้เพียง 18,500,000 ถึง 19,200,000 เส้น ซึ่งน้อยกว่าระดับศักยภาพที่ไทยจะทำได้หากไม่ต้องเสียภาษี AD ชั่วคราว โดยยางล้อรถบรรทุกเล็กมีโอกาสได้รับผลกระทบมากกว่าเนื่องจากระดับราคานำเข้าจากไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปสูงกว่าคู่แข่งพอสมควร ​​และคู่แข่งที่ต้องจับตามองมากที่สุด คือ อินโดนีเซียและเวียดนาม ตามด้วยแคนาดา​