ราคากาแฟในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ถึงปัจจุบัน จากสภาพอากาศที่แปรปรวน กดดันแหล่งผลิตหลักอย่างบราซิลและเวียดนามได้รับความเสียหาย คาดว่า ราคากาแฟโลกอาจยืนสูงต่อเนื่องจนกว่าผลผลิตรอบใหม่ของบราซิลจะออกสู่ตลาดในราวปี 2568 และแน่นอนว่า ไทยที่เป็นผู้นำเข้า คงต้องเผชิญราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2565 การนำเข้ากาแฟของไทยจะมีมูลค่าราว 163 ล้านดอลลาร์ฯ หรือขยายตัวร้อยละ 27 (YoY)
ผลที่ตามมา ผู้ประกอบการแปรรูปและร้านกาแฟจะเผชิญต้นทุนเมล็ดกาแฟที่ยังยืนสูง และเมื่อรวมกับต้นทุนอื่นๆ จะกระทบมายังผู้บริโภคที่อาจต้องจ่ายราคากาแฟต่อแก้วที่สูงขึ้น ขณะที่ เกษตรกรที่ผลิตกาแฟคงได้รับอานิสงส์จากราคาขายที่ดีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปี 2566 จากผลผลิตกาแฟโลกที่ยังตึงตัว แต่ในระยะข้างหน้า ผู้ผลิตกาแฟไทยควรยกระดับการผลิตไปยังกาแฟคุณภาพมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาตลาดโลก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น